ภาวะโลกร้อน จะทำลายอุตสาหกรรมไวน์หรือไม่
ตอนนี้ปัญหาภาวะโลกร้อนกำลังรุงเเรงขึ้นเรื่อยๆ เเละ “ภาวะโลกร้อนกับไวน์” นั้นเกี่ยวข้องกัน มีการเปิดเผยว่า หลายภูมิภาคที่ปลูกองุ่นที่สำคัญของโลกอาจมีจำนวนลดลงเนื่องจากองุ่นนั้นมีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและฤดูกาลเป็นอย่างมาก จากการวิจัย ถ้าอุณหภูมิของโลกนั้นเพิ่มขึ้น 2.5°C ในปี 2100 พื้นที่ปลูกองุ่นในโลกจะลดลงถึง 56% เเละถ้าเพิ่มขึ้นอีก 5°C 85% ของไร่องุ่นจะไม่สามารถปลูกองุ่นได้อีก ผู้ผลิตไวน์ระดับโลกนั้นกำลังทำอะไรเพื่อรักษาองุ่นอยู่ต่อไป? ยังคงมีความหวังอยู่ บางภูมิภาคที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกองุ่นชนิดเดิมจากอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นนั้นก็เปลี่ยนมาปลูกองุ่นชนิดอื่นที่ทนกว่าการวิจัยกล่าวว่า การสลับสายพันธุ์ในการปลูกสามารถลดความเสียหายได้เป็นจำนวนมาก เเต่ผู้ปลูกก็ต้องเรียนรู้การปลูกองุ่นสายพันธุ์ที่จะใช้ นั่นเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่สำหรับภูมิภาคที่ปลูกองุ่นพันธุ์เดียวมาหลายร้อยปี estate ชื่อดัง ถ้าเปลี่ยนชนิดองุ่นที่ปลูกแน่นอนว่าพวกเขาอาจเสีย อาจเสียวัฒนธรรมน่ะชื่อเสียงที่สร้างมาเป็นร้อยๆ ปีได้ ยกตัวอย่างเช่น Pinot Noir ซึ่งเป็นพันธุ์องุ่นที่ใช้ทำไวน์ชื่อดังหลายตัว Pinot Noir โตยาก บอบบางและส่วนใหญ่โตดีในอากาศที่เย็นหน่อยเท่านั้น ถ้าโลกเลิกปลุก Pinot Noir ไวน์หลายตัวก็คงตรงเลิกผลิตไปด้วย อีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าไวน์ชื่อดังหลายตัวที่ผู้คนชื่นชอบนั้นอาจไม่ไม่ผลิตอีกต่อไปแล้วก็ได้ แต่แต่ถ้าถึงตอนนั้นเราคงไม่ได้มานั่งกังวลเรื่องไวน์หรอก เพราะคงมีปัญหาใหญ่กว่าที่มากับ global warming บทความโดย Wineman Thailand อ่านบทความเรื่อง ไวน์เเดงแนะนำประจำวันศุกร์ (week 1)