fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

ทำความรู้จัก องุ่น Merlot ไวน์ดีไม่เป็นรองใคร!

August 14, 2020

Justice for Merlot! เพราะนอกจากจะเป็นพันธุ์องุ่นที่อยู่ในเงามืดของ Cabernet Sauvignon ใช้เป็นตัวเสริมใน Bordeaux Blend เท่านั้น ยังตกหลุ่มการตลาดของตนเอง ที่ทำให้หากนึกถึง องุ่น Merlot ก็จะต้องคิดถึงไวน์ราคาถูก คุณภาพใช้ได้ แต่ไม่มีอะไรโดดเด่นเท่าไหร่! ซึ่งวันนี้เราจะขอมอบเวทีให้ องุ่น Merlot เลยครับ เพราะนอกจากรสชาติจะละมุนนุ่ม ยังเป็นไวน์ที่ดื่มคู่กับอาหารได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วยครับ

ไวน์แนะนำ

ที่มาขององุ่น Merlot

ว่ากันว่า Merlot ถือกำเนิน ณ แคว้นบาร์โดซ์ หนึ่งในพื้นที่ที่โด่งดังเรื่องไวน์ที่สุดในฝรั่งเศส

ซึ่งเป็นสายพันธุ์องุ่นที่มีสีเข้มจนเกือบเป็นสีดำ ซึ่งภายหลังงานวิจัยได้ยืนยันว่า Merlot คือองุ่นพันธุ์ผสมระหว่าง Cabernet Franc และองุ่นพันธุ์หายากอย่าง Magdeleine Noire des Charentes ซึ่งทำให้ Merlot เป็นเหมือนญาติกับ Cabernet Sauvignon ซึ่งชื่อของ Merlot แปรออกมาได้คร่าวๆ ว่า นกสีดำ ซึ่งอาจมาจากสีขององุ่นที่คมเข้มนั่นเองครับ

ซึ่งความป๊อปปูล่าของ Merlot ก้าวกระโดดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปี 1990 – 2010 ที่ความนิยมของไวน์บอร์โดซ์เบลนด์เพิ่มสูงขึ้น ทำให้มีการปลูก Merlot มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของพันธุ์องุ่นทั้งโลก เป็นรองก็เพียงแต่ญาติผู้พี่อย่าง Cabernet Sauvignon ซึ่ง 2 ใน 3 ของ Merlot ทั้งโลก ถูกผลิตในฝรั่งเศสครับ! นอกจากจะใช้เป็นฐานของรสชาติบอร์โดซ์เบลนด์แล้ว ยังมีไวน์ Merlot เกรดพรีเมี่ยมในฝรั่งเศส (ส่วนใหญ่จะมาจาก St. Emilion) ที่ราคาขวดละเป็นหมื่นเป็นแสนครับ

ลักษณะและรสชาติขององุ่น Merlot

องุ่น Merlot

Merlot ถือเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีแห่งวงการไวน์เลยทีเดียว เพราะนอกจากจะสามารถปรับตัว ปลูกในหลากหลายพื้นที่ได้ ตั้งแต่ warm climate ไปจนถึง cool climate แต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นไวน์แดงสีเข้ม ออกโทนแดงทับทิม สีเข้มกว่า Pinot noir แต่อ่อนกว่า Cabernet Sauvignon ครับ มีลักษณะ medium ไปจนถึง full-body ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติอันสมดุล ละมุนละไม ระดับ tannin ปานกลาง รวมถึง acidity ด้วย โน้ตหลักของไวน์คือแบล็คเชอร์รี่ ราสเบอร์รี่ และพลัม นอกจากนั้นยังได้กลิ่นอ่อนๆ ของตะกั่วดำ, ไม้ซีด้า, ใบยาสูบ, วานิลลา, กานพลู และมัชชะ

แต่สิ่งที่ทำให้ Merlot น่าตื่นเต้นขึ้นมาคือสามารถแบ่งโปรไฟล์ของรสชาติ Merlot ออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ warm climate และ cool climate นั่นเองครับ

cool climate Merlot –  จะได้ไวน์ที่มีโครงสร้างแข็งแรงมากกว่า fuller-bodied นอกจากนั้นยังมี tannin ที่สูงกว่า พร้อมไวน์มีกลิ่น earthy มากกว่าเช่นกลิ่นใบยาสูบ และน้ำมันดิบ ซึ่งมีรสชาติเข้มข้นใกล้เคียงกับ Cabernet Sauvignon ได้เลยทีเดียว

ซึ่งกลุ่มประเทศที่ผลิตไวน์ cool climate Merlot ได้ดีที่สุดได้แก่ ฝรั่งเศส อิตาลี และชิลีครับ ในจำนวนนี้ พื้นที่ที่โด่งดังที่สุดคือฝรั่งเศส บริเวณ Right Bank ของบอร์โดซ์ หรือในพื้นที่ย่อยของ St. Emilion

warm climate Merlot – มีความเป็นผลไม้สูง โดยเฉพาะโน้ตที่เป็นกลุ่มเบอร์รี่ tannin จะน้อยกว่าทำให้ดื่มง่าย รสชาติสดชื่น ซึ่งมีผู้ผลิตบางเจ้าใช้การเอจจิ้ง Merlot ในถังไม้โอ๊คเพื่อทำให้โครงสร้างของไวน์แข็งแรงและซับซ้อนขึ้นนั่นเองครับ

ซึ่งกลุ่มประเทศที่ปลูก warm climate Merlot ได้ดี ได้แก่อเมริกา อาร์เจนติน่า และออสเตรเลีย ซึ่งที่น่าจับตามองที่สุดก็คงเป็นแคลิฟอร์เนีย ในพื้นที่ Paso Robles และ Napa Valley

องุ่น Merlot ในพื้นที่ต่างๆ

ฝรั่งเศส 

แน่นอนว่านอกจากจะเป็นประเทศผู้ให้กำเนิน Merlot แล้ว ยังเป็นประเทศที่ปลูก Merlot ได้ดีเยี่ยมที่สุดมาเนิ่นนางจนถึงในปัจจุบัน และหากพูดถึง Merlot เชื่อว่าหลายๆ คนต้องนึกถึงบอร์โดซ์ก่อนอย่างแน่นอน แต่แม้จะในบอร์โดซ์เอง ก็ยังปฎิบัติกับ Merlot เหมือนนักแสดงรองที่คอยซัพพอร์ตพระเอกอย่าง Cabernet Sauvignon… ยกเว้นใน Saint Emilion

  • Saint Emilion – อยู่ฝั่งขวาของแม่น้ำการอน มีอากาศหนาวเย็น พร้อมดินที่มีแร่ธาตุและหินปูนสูง ทำให้ Merlot เติบโตได้ช้า สุกงอมช้า ยิ่งที่ให้รสชาติขององุ่นเข้มข้น แต่ก็นุ่มนวล ละมุนละไม ซึ่งมีผู้ผลิตชั้นนำมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Cheval Blanc, Château Canon และ Clos Fourtet เป็นต้นครับ

อิตาลี 

Merlot เป็นที่รักใคร่อยากมากในอิตาลี โดยเฉพาะใน Tuscany ทัสคานี ซึ่งสามารถปลูก Merlot คุณภาพเยี่ยม ส่วนมากจะใช้ blend ผสมกับทั้ง Cabernet Sauvignon และ Sangiovese จนได้ชื่อเรียกอันทรงเกียรติว่า ‘Super Tuscan’ ไวน์แหกกฎของอิตาลี ที่มีคุณภาพดีเยี่ยมไม่แพ้ DOC หรือ DOCG เลยครับ

ชิลี

เป็นอีกที่หนึ่งที่เป็นบ้านหลังที่ 2 อันสมบูรณ์แบบให้กับ Merlot ซึ่งไวน์รสชาติสมดุล ดื่มง่าย เข้ากับอาหารหนักๆ ของชิลีได้เป็นอย่างดี มีการปลูกอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในชิลีตอนกลาง (Central Valley) ซึ่งสามารถผลิตไวน์สไตล์บอร์โดซ์เบลนด์คุณภาพเยี่ยม โครงสร้างไวน์แข็งแกร่ง ซึ่งจะมาจาก Colchagua, Maule Valley และ Maipo บริเวณวินยาร์ดที่ตีนเขาแอนดีส

ซึ่งช่วงแรก Merlot ได้สร้างความปั่นป่วนให้วงการไวน์ชิลีเล็กน้อย เพราะถูกเหมารวมเข้ากับองุ่น Carménère ใครอยากรู้รายละเอียด คลิก

เสิร์ฟ Merlot ยังไงให้อร่อยสุดๆ

เเก้วที่เหมาะจะใช้รินไวน์ Merlot นั้นคือ เเก้วไวน์เเดง Large Bordeaux เพราะว่าเหมาะกับไวน์ที่หนักเเละมีแอลกอฮอล์สูง  ความกว้างของเเก้วจะช่วยให้กลิ่นแอลกอฮอล์ระเหยออกไปได้ง่ายขึ้น อุณหภูมิที่เหมาะในการดื่มอยู่ที่ประมาณ 15-20 องศา เเนะนำให้ decant ไวน์ไว้ประมาณ 30 นาทีก่อนดื่ม Merlot จะได้ปลดปล่อยคาเเร็คเตอร์ออกมาได้เต็มที่ครับ

จับคู่ Merlot กับเมนูโปรด

Merlot สามารถจับคู่เข้ากับอาหารได้หลากหลายรูปแบบเลยครับเพราะเป็นไวน์แดงที่อยู่ตรงกลาง อีกทั้ง Merlot ยังมีรูปแบบที่ลหากหลาย

Fruity Merlot รสชาติไลท์ๆ – จับคู่กับอาหารทานเล่น หรือ appitizer ได้เป็นอย่างดี เช่น ชีส แครกเกอร์ แฮมเย็น ไปจนถึงไก่อบสมุนไพรสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน

Medium-bodied Merlot รสละมุน – จับคู่กับอาหารตระกูลแป้งสาลีได้ดีเยี่ยม ตั้งแต่สปาเก็ตตี้มีทบอล พาสต้าอบ ลาซานย่า มักกะโรนีอบชีส ไปจนถึงอาหารที่มีโปรตีนสูงเช่นแฮมเบอร์เกอร์ มีทโลฟ และอาหารรสจัดต่างๆ เช่นอาหารสเปน อินเดีย ไทย ก็ได้หมดเลยครับ

Merlot Blend (aka. Bordeaux) – เข้ากับโปรตีน เนื้อสัตว์เป็นที่สุดตั้งแต่ลูกวัว หมู ไปจนถึงแกะ และกลุ่มสมุนไพรประเภทไทม์ โรสแมรี่ บีฟเวลิงตั้น ไปจนถึงเนื้อสัตว์ปีก ไก่ ไก่งวง และเป็ดปักกิ่งเป็นต้นครับ

Full-bodied Merlot รสเข้มข้น – สามารถจับคู่กับอาหารแบบเดียวกับที่จับคู่กับ Cabernet Sauvignon ได้เลยครับ เช่นเนื้อสเต็กมันเยอะๆ เนื้อลูกวัว ซอสกระเทียมพริกไทย ไปจนถึงซอสไวน์แดง ก็จะเข้ามากๆ เลยครับ

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ