แนะนำ Jacob’s Creek ไวน์ออสเตรเลียแสนหลากหลาย!
August 17, 2020
ใครอยากสัมผัสเสน่ห์รสชาติไวน์ออสเตรีเลียอย่างแท้จริง จากผู้ผลิตที่มีความเป็นมายาวนานเป็นร้อยปี ต้องลองไวน์จาก Jacob’s Creek จุดเด่นคือความหลากหลายของไวน์ตั้งแต่ไวน์ขาว ไวน์แดง โรเซ่ ไปจนถึง Jacob’s Creek สปาร์คกลิ้งไวน์ ไปจนถึงไวน์เกรด Jacob’s Creek reserve ในราคาที่ล้วนแต่จับต้องได้ ไม่แพงเกินไปครับ
ไวน์แนะนำ
ประวัติความเป็นมาของ Jacob’s Creek
เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1840 เมื่อ William Jacob มาตั้งรกรากบริเวณชิบลพธารเล็กๆ ของ Rowland บริเวณ Barossa Valley ออสเตรเลียตอนใต้ ซึ่งต่อมาสถานที่แห่งนี้จะถูกตั้งชื่อตามเขา (Jacob’s Creek) และโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งต่อมาในปี 1912 เริ่มมีการปลูกไวน์ขึ้นครั้งแรก ภายใต้ชื่อวินยาร์ด Gramp & Sons ซึ่งเริ่มจากวินยาร์ดเพียง 185 ไร่ และต่อมาขยายไปทั่ว Barossa Valley และพื้นที่ใกล้เคียง จนมาปี 1976 จึงมีการผลิตไวน์ภายใต้ชื่อ Jacob’s Creek โดยนำองุ่นในพื้นที่มาผลิตเป็นไวน์ชั้นเยี่ยม วินเทจน์แรกของแบรนด์คือ 1973 vintage เป็นไวน์แดงเบลนด์จาก Shiraz และ Cabernet Sauvignon
ขณะนี้ได้นักทำไวน์ฝีมือเยี่ยมอย่าง Dan Swincer มาเป็นหัวหน้าคุมฝ่ายผลิตตั้งแต่ปี 2015 พร้อมทีมงานคนรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยใจรักในการผลิตไวน์ ผลักดันให้ Jacob’s Creek ก้าวไปข้างหน้าในฐานะผู้ผลิตไวน์ออสเตรเลียคุณภาพเยี่ยมครับ
พื้นที่ของ Jacob’s Creek
Jacob’s Creek มีพื้นที่อยู่ใน 3 บริเวณใกล้เคียง แต่มีสภาพอากาศแบบ micro climate ทำให้สามารถปลูกองุ่นที่หลากหลายได้ เริ่มตั้งแต่
- Barossa valley ที่ตั้งอยู่ฝั่งตะวันออกของAdelaide ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีอากาศอบอุ่นและแห้ง มีดินที่แน่น จึงทำให้เหมาะสมกับไวน์แดง Full-body อย่าง Shiraz โดยพื้นที่ที่สูงขึ้น จะเรียกว่า Barossa ranges จะมีอากาศหนาวขึ้น เหมาะกับ Riesling รสเข้มข้นครับ
- Adelaide Hills อยู่ทางตะวันออกของ Adelaide เช่นกัน อยู่ทางเชิงเขาของภูเขา Lofty เต็มไปด้วยดินที่มีความหลากหลาย แต่ด้วยความสูง จึงทำให้มีฝนเยอะ และอากาศหนาว จึงทำให้เหมาะกับการปลูกองุ่น cool climate ที่สุด เช่น Chardonnay และ Pinot Noir.
- Coonawarra โด่งดังในเรื่องการปลูก Cabernet Sauvignon คุณภาพเยี่ยม ตั้งอยู่ทางตะวันออกของออสเตรเลียใต้ ระหว่าง Adelaide และ Melbourne อยู่ในพื้นที่ Limestone Coast wine zone โดยได้ลมเย็นๆ จากชายฝั่งทะเล ไม่ค่อยมีแดด และเป็นพื้นที่ราบ ทำให้ได้องุ่นที่สุกงอมช้า รสชาตินุ่มละมุน ดินเป็นดินผสมหินปูน ที่เรียกกันว่า terra rossa
ไวน์ของ Jacob’s Creek
Trilogy Brut Cuvée – Jacob’s Creek มีชื่อเสียงในเรื่องสปาร์คกลิ้งไวน์อย่างมาก เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1998 ซึ่งสปาร์คกลิ้งไวน์ของJacob’s Creek ได้รับรางวัลมากมาย ซึ่ง Trilogy Brut Cuvée เป็นไวน์ที่ผลิตตามสไตล์ของไวน์แชมเปญ นั่นคือเป็นการเบลนด์ระหว่าง Pinot Noir, Chardonnay และ Pinot Meunier ซึ่งให้รสสัมผัสที่หรูหรา แต่ก็สดชื่นสดใส โน้ตหลักที่จะได้คือขอบขนมปัง และกลิ่นอ่อนๆ ของเรดเคอเรนท์จาก Pinot ตามมาด้วยความครีมมี่ คล้ายบิสกิต มีรสชาติที่ลอยค้างในปากยาวนาน แต่ก็เฉียบคม ถือว่าเป็นไวน์ที่มีความบาลานซ์อย่างมาก ดื่มแล้วไม่เลี่ยนอย่างแน่นอนครับ
‘Reserve’ Coonawarra Cabernet Sauvignon – ในปี 2000 Jacob’s Creek ได้มีการผลิตไวน์ภายใต้ชื่อ ‘Reserve’ ขึ้นมาเพื่อไฮไลท์รสชาติองุ่นของแต่ละพื้นที่ขึ้นมาให้ชัดเจนที่สุดครับ จึงได้ออกมาเป็น Coonawarra Cabernet ที่นำเสนอหนึ่งในวินยาร์ดที่ดีที่สุดของออสเตรเลีย เป็นไวน์ที่มีความซับซ้อน เข้มข้น full-body เต็มไปด้วยโน้ตของแบล็คเบอร์รี่ ใบไม้ สนซีด้าร์ วานิลลา และเครื่องเทศต่างๆ ไวน์มีโครงสร้างแข็งแรง มั่นคง ด้วย tannin อันนุ่มละมุน
‘Milestones’ 1819 Shiraz Cabernet – หรือสำหรับใครที่อยากลิ้มรสชาติไวน์ออสเตรเลียแสนคลาสสิค ที่นับว่าเป็นไวน์ที่สร้างชื่อเสียงให้ Jacob’s Creek โด่งดังจนมาถึงทุกวันนี้ ก็สามารถซื้อไวน์ภายใต้ชื่อ ‘Milestones’ เพื่อย้อนเวลากลับไปชิมไวน์ได้เลยครับ ซึ่งเป็นไวน์แดง full-body รสชาติเข้มข้น ที่มี tannin อันทรงพลัง ซึ่งเป็นการเบลนด์ระหว่าง Shiraz และ Cabernet Sauvignon เต็มไปด้วยรสชาติอันซับซ้อนของแบล็คเบอร์รี่ พลัม ช็อคโกแล็ต โป๊ยกั้ก และไม้โอ๊ค ไม่ซีด้า ถึงแม้รสเข้มข้น แต่เต็มไปด้วยสมดุลทางรสชาติที่ทำให้ไวน์ดื่มได้คล่องคอมากๆ ครับ
‘Barossa Signature’ Chardonnay – สำหรับใครๆ หลายๆ คนที่ต้องการรสชาติไวน์โมเดิร์นที่ ตามแบบฉบับที่ Barossa valley สามารถให้ได้ต้องลองไวน์ ‘Barossa Signature’ โดยมีไวน์ขาว Chardonnay รสชาติเฉียบขาด สดชื่น ด้วยกลิ่นผลไม้เข้มข้นจากฮันนี่ดิว เมล่อน สโตนฟรุ๊ต และซิตรัส หรือผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ ไปจนถึงความนัตตี้ ของแคชชูนัท ที่เพิ่มมิติให้ไวน์สมดุล เหมาะสำหรับใครที่ชอบไวน์ฟรุ๊ตตี้ หอมสดชื่น แต่ไม่น่าเบื่อครับ
การจับคู่มื้อโปรดกับไวน์ Jacob’s Creek
สำหรับไวน์แดงรสชาติเข้มข้น จะเหมาะออย่างยิ่งกับสเต็กเนื้อแรๆ ไม่ต้องสุกมาก ทานคู่กับซอสรสชาติเข้มข้นอย่างพริกไทย กระเทียม (หากเป็น Cabernet Sauvignon จะเข้าอย่างยิ่งกับซอสเห็ด หรือทรัฟเฟิลครับ) ไปจนถึงเมนูเนื้อสัตว์ปีก เช่นไก่ เป็ด และแกะอบสมุนไพรสไตล์ยุโรป เช่นโรสแมร์รี่ และไทม์ เป็นต้นครับ
ซึ่งหากเป็นสปาร์คกลิ้งไวน์ จะเหมาะอย่างยิ่งกับของคาวที่รสชาติเผ็ดร้อน แต่เป็นความเผ็ดที่สมดุล ไม่หนักเกินไป เช่นอาหารไทย ต้มยำ ส้มตำ รวมถึงเมนูขนมหวานที่ครีมมี่ เช่นชีสเค้กหรือแครมบรูว์เล เป็นต้นครับ