แนะนำพันธุ์องุ่นไวน์ – Pinot Noir (พิน-โน-นัว)
June 5, 2020
พันธุ์องุ่นเเนะนำวันนี้ ไวน์เเมนเสนอ “องุ่น Pinot Noir” ซึ่งเป็นองุ่นที่น่าสนใจมากเลยครับ เเถมเหมาะกับสาวๆ ที่บอบบางน่าทะนุถนอมอีกด้วย สงสัยกันละสิว่า เพราะอะไร ทุกคนจะได้รู้กันอย่างชัดเจนเเจ่มเเจ้งกันจากโพสนี้ละครับ
ไวน์แนะนำ
เอาละครับถึงคิว องุ่น Pinot Noir จริงๆเเล้ว ตามไวน์เเมนมาเลยครับ

มาทำความรู้จักองุ่น Pinot Noir กัน
Pinot Noir เป็นองุ่นที่ใช้ทำไวน์แดงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งมาในชื่อเดียวกันคือ ไวน์ Pinot Noir เขาเป็นองุ่นดำที่ชอบอากาศเย็น เนื่องจากความเป็นกรด ความละเอียดอ่อนเเละความอ่อนเเอเมื่อเจออากาศที่ร้อนกว่า จึงทำให้โตยากเจออากาศที่ไม่เป็นใจนิดนึง องุ่นก็อาจจะเสียได้ เเต่เมื่อปลูกสำเร็จเเล้วเราก็ได้ไวน์ที่มีความหรู ความซับซ้อนและเก็บไว้ได้นาน Pinot Noir เป็นหนึ่งในพันธุ์องุ่นที่เก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศส มีการเพาะปลูกมานานกว่าร้อยปี เนื่องจากความนิยมและการเติบโตที่ยากนั้นจึงเป็นสาเหตุในกลายเป็นหนึ่งในไวน์ที่แพงที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเรียกได้ว่า เป็นพันธุ์องุ่นที่อินเตอร์เลยทีเดียว
เเล้วรสชาติเป็นยังไงละ?
โดยทั่วไปแล้วรสชาติ Pinot Noir เขาไม่ชอบความรุนเเรงครับ ยืนหนึ่งเรื่องความอ่อนโยน มี body เเบบอ่อนถึงกลางๆ เเละถูกผลิตออกมาให้มีรสชาติ dry ครับ มี acidity ที่พอดิบดี มีแทนนินที่ละมุนลิ้นเเบบมากเว่อร์ ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเดินอยู่บนเมฆสิครับ นั่นเเหละครับ นุ่มเเบบนั้นเลย เเต่การที่เขาอ่อนนุ่มไม่ได้เเปลว่าเขาอ่อนเเอนะครับ เพราะแอลกอฮอล์ที่มาให้ปริมาณ 12–15% เหมือนเป็นลมเย็นๆ ที่พัดมากระเเทกหน้าคุณ ส่วนรสชาติเเละกลิ่นของ Pinot Noir นั้นมีความซับซ้อนของเชอร์รี่, ราสเบอร์รี่, เห็ดและก้านพลู เเถมมีกลิ่นอายของพืชที่ขึ้นตามพื้นดิน บวกกับมีความหวานและรสของเครื่องเทศ (เมื่อนำไปหมักในถังไม้โอ๊ก) รวมๆ เเล้วเป็นรสชาติที่ทุกคนหยุดดื่มไม่ได้ เอาอะไรมากั้นก็หยุดไม่ได้
เเถมครับ จริงๆ เเล้ว Pinot Noir มีรสชาติแตกต่างกันตามสภาพอากาศและสไตล์ของผู้ผลิต อย่างภูมิอากาศที่เย็นกว่าทำให้ Pinot Noir มีรสที่อ่อน เเต่ถ้าปลูกที่ภูมิอากาศอบอุ่นจะมีรสชาติที่คมเข้มเเละเเอลกอฮอล์มากกว่า เเละผู้ผลิตบางรายที่หมัก Pinot Noir ไว้ในถังโอ๊คใหม่จะทำให้รสชาตินั้นเข้มขึ้นอีก
มีการปลูกองุ่น Pinot Noir ที่ไหนบ้าง?
เนื่องจากเป็นถึงหนึ่งในพันธุ์องุ่นที่เก่าแก่ที่สุดของฝรั่งเศส ภูมิภาคที่สามารถพบการปลูกองุ่นพันธุ์นี้มากที่สุดก็คงไม่พ้นฝรั่งเศสละครับ ซึ่งนิยมปลูกในภูมิภาค Burgundy ภูมิภาคที่ผลิตไวน์ออกมาได้ดีที่สุดในโลก สำหรับรสชาติองุ่นของที่นี่จะมีความเป็นเชอร์รี่ เห็ด ดอกชบา กลีบกุหลาบ เเละดิน นอกจากนี้อาจจะให้ความ earthy นิดๆตามสไตล์ของ Burgundy เเล้วเวลาหมักที่นี่นะครับก็คือใส่ลงไปทั้งพวงเลย เพื่อที่จะสกัดเเทนนินออกมาให้ได้มากขึ้นนั่นเอง ถ้าถามว่าที่อื่นปลูกองุ่นพันธุ์นี้ไหม มีเเน่นอนครับ เเต่ไวน์เเมนขอเลือกเจาะลึกเฉพาะที่ๆปลูกได้ดี นอกเหนือจากฝรั่งเศสละกันครับ
California: สำหรับองุ่น Pinot Noir ใน California ประเทศอเมริกาเเล้ว ที่นี่ถือว่ามีสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างอุ่นเลยทีเดียว เเต่โชคดีที่ยังมีลมเย็นๆ เเละหมอกที่มาจากมหาเเปซิฟิกอยู่บ้าง รวมถึงการควบคุมอุณหภูมิของผู้ผลิตไวน์ด้วย ผลลัพธุ์ที่ได้เลยยอดเยี่ยมไปด้วย Pinot Noir ที่นี่มีสไตล์ฟรุ๊ตตี้เเบบหรูหราเเละยั่วยวนน่าลิ้มลอง และมาพร้อมกับรสชาติผลไม้อย่างเชอร์รี่ดำ ราสเบอร์รี่ ชาดาร์จีลิงเเละวานิลลา มี undertone เบาๆ จากเครื่องเทศ มาจากการหมักในถังโอ๊คที่ลงทุนนำเข้ามาจากฝรั่งเศสนั่นเอง
Oregon: สำหรับ Pinot Noir จากภูมิภาคนี้ รสชาติของเขาก็จะมีความเบาเเละฟรุ๊ตตี้จากตั้งเเต่แครนเบอร์รี่ ทับทิมจนไปถึงพวกเชอร์รี่สีเข้ม ส่วนในเรื่องของความเข้มข้นก็ขึ้นอยู่กับราคาของไวน์ ถ้าขวดที่ราคาไม่เเพงมาก ความเข้มข้นก็จะไม่ได้ซับซ้อนมากสักเท่าไหร่ครับ ซึ่งถ้าพูดถึง Pinot Noir ที่ไวน์เเมนชอบก็ต้องมาจาก Oregon เลยครับ เเละมีหลายคนที่มองข้ามภูมิภาคไวน์นี้ไป ใครไม่เคยลองก็ต้องลองนะครับ อาจจะกลายเป็นไวน์โปรดของคุณก็ได้ เพราะ “ไวน์อเมริกันที่ Oregon มาเเรง” มากๆ
Germany: Pinot Noir (หรือที่เรียกว่า Spatburgunder) ในเยอรมัน ถูกปลูกที่ภูมิภาค Ahr ซึ่งมีความอุ่นกว่าภูมิภาคอื่นๆ ในประเทศ Pinot Noir ที่นี่จะมีรสชาติเหมือนลูกพลัม มีรสผลไม้เเละชุ่มดินเบาๆ ครับ
Italy: ในอิตาลีจะมีชื่อเรียกอีกอย่างคือ Pinot Nero ซึ่งจะให้ความ earthy คล้ายๆ Pinot Noir ในฝรั่งเศสเลยครับ เเต่จะมีความสุกกว่า มาพร้อมกับสีไวน์ที่เข้มกว่าเเละมีความหรูหราหมาเห่า ซึ่งเป็นเสน่ห์ของเขาเลยเเหละครับ
New Zealand: สำหรับไวน์จากประเทศนี้ องุ่นจะถูกปลูกที่ Central Otago รสที่ได้ก็จะมีความเป็นเชอร์รี่ เครื่องเทศเเละตบท้ายด้วย finish ที่เหมือนโคล่า ถือว่าเป็นรสชาติที่น่าสนใจมากๆ เลยครับ
Australia : Pinot Noir ในออสเตรเลียจะมีสีที่ไม่เข้มมาก ให้ความรู้สึกถึงพวกผลไม้สีเเดง เช่น เชอร์รี่ ราสเบอร์รี่ รวมถึงลูกพลัมที่มาบาลานซ์กับเเทนนินที่อ่อนโยน ถ้าเอจไว้นะครับ รสชาติก็จะซับซ้อนขึ้นเเถมมีความ earthy อีกด้วย
เสิร์ฟ Pinot Noir อย่างไงถึงจะอร่อยที่สุด?
สำหรับองุ่นเเสนบอบบางอย่าง Pinot Noir ควรเสิร์ฟในอุณหภูมิระหว่าง 12-15°C จะให้รสที่มีความละเอียดอ่อนและสดชื่น มีความหรูหราและให้กลิ่นของไม้โอ๊กมากขึ้น ถ้าเป็น Pinot Noir ที่มีรสอ่อนควรเสิร์ฟที่อุณหภูมิใกล้เคียง 12 องศา และส่วนขวดที่รสเข้มข้นอยู่ที่อุณหภูมิ 15 องศาครับ หากคุณยังดื่มไม่หมดขวด ให้ปิดขวดด้วยจุกคอร์กแล้วนำมาใส่ในตู้เย็น จะสามารถจะคงความสดใหม่ของรสชาติอีก 1-3 วัน ถ้านานกว่านั้นไวน์จะเริ่มปฏิกิริยาออกซิไดซ์ครับ
จับคู่กับอาหารอะไรดี?
Pinot Noir สามารถจับคู่อาหารได้อย่างหลากทีเดียวละครับ สำหรับไวน์เเมน ผมขอเเนะนำให้ดื่มคู่กับเนื้อที่มี่เเดงอ่อนๆ อย่างเนื้อเป็ดเเละเเกะ รวมถึงเนื้อสีขาวอย่างเนื้อไก่งวง,หมูเเละไก่ด้วย ส่วนถ้าใครชอบกินปลา เนื้อปลาเเซลมอนก็เข้ากับไวน์ได้ดีเลยนะครับ รสชาติจะไปส่งเสริมกัน ผักและสมุนไพรอย่างเห็ดและโหระพา ริซอตโต้กับพาสต้าก็ช่วยให้รสชาติของไวน์ดีขึ้นเช่นกัน เเต่เเนะนำให้เลี่ยงอาหารที่มีความแน่นและรสชาติเข้มข้นนะครับ ไม่งั้นอาหารจะกลบรสชาติของไวน์ Pinot Noir หมดเลย
อีกเรื่องที่น่าเซอร์ไพรส์คือ คุณสามารดื่ม Pinot Noirคู่กับขนมได้ ถ้าอย่ากรู้ว่าเป็นขนมอะไร คลิกที่นี่เลย!
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับองุ่นพันธุ์นี้ คนไหนชอบ Pinot Noir เเบบไหนก็คอมเม้นต์บอกไวน์เเมนกันได้ที่ได้โพสเลยนะครับ เพราะอย่างที่ผมได้เขียนไปว่า องุ่นพันธุ์นี้ถือว่ามีรสชาติที่หลากหลาย เเต่ละที่ก็มีเสน่ห์ที่เเตกต่างกันไป ผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องมี Pinot Noir ขวดโปรดในใจ ลองถ่ายรูปมาเเชร์กันได้เลยนะครับ
เรียนรู้ไวน์ไปพร้อมๆ กับเราที่ Wineman.Thailand