fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

ไฟป่าทำลายไวน์ California ครั้งนี้แรงกว่าเดิม

July 16, 2021

เป็นเรื่องน่าเศร้าใจของเหล่าผู้รักไวน์ที่ต้องมาเจอข่าวความรุนแรงของไฟป่าในรัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยหากใครจำได้ ไวน์แมนเคยเขียนถึงไฟป่าเมื่อปีที่แล้วว่ารุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐเลยก็ว่าได้ แต่เชื่อไหมครับ!! ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นในปีนี้ถูกคาดการณ์ว่าจะรุนแรงกว่าปีที่แล้วอีกเป็นเท่าตัว โดยพื้นที่กว่า 91,000 เอเคอร์ ถูกกลืนหายเข้าไปในกองเพลิง มีคำสั่งในผู้อยู่อาศัยอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วนเพื่อที่เจ้าหน้าที่จะสามารถควบคลุมกองเพลิงและเพื่อความปลอดภัย บ้านเรือนกว่า 20 หลังและสิ่งก่อสร้างอื่นๆเสียหายจากไฟป่าครั้งนี้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาใน Doyle โดยเหตุการณ์นี้สร้างความหวั่นวิตกต่อความเสียหายต่อวินยาร์ดหลายร้อยไร่ในพี้นที่ดังกล่าวด้วยครับ 

 

ปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าใน California 2021 รุนแรงสุดๆ

อย่างที่ไวน์แมนบอกไว้ตั้งแต่แรกว่าที่ California เกิดไฟป่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ว่าปีนี้รุนแรงกว่าที่ผ่านมาเนื่องจาก 3 ปัจจัยหลักๆ อย่างแรกคือคลื่นความร้อนที่เคลื่อนเข้ามาในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือทำให้พื้นที่ดังกล่าวรวมไปถึงไร่องุ่นที่อยู่ในภูมิภาคต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด อย่างที่สองตอนนี้ California กำลังเผชิญกับความแห้งแล้งอย่างรุนแรง โดย 100 เปอร์เซ็นต์ของรัฐอยู่ภายใต้สภาวะแห้งแล้งอย่างผิดปกติ รวมถึงพื้นที่กว้างใหญ่ของแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ ที่ห้อมล้อมเมือง Napa และ Sonoma ซึ่งอุณหภูมิในตอนนี้ได้ทุบสถิติความร้อนโลกเป็นปีที่สอง ตามรายงานล่าสุดพุ่งสูงถึง 54.4 องศาเซลเซียส!! เรียกได้ว่าร้อนสุดๆเลยล่ะครับ และสุดท้ายคือผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Climate Change)

หนึ่งในผู้เสียหายกล่าวว่าไฟป่าครั้งนี้ทั้งแรงและเร็วมาก เหมือนกับการยิงปืนเพียงนัดเดียวก็สามารถเปลี่ยนบ้านทั้งหลังให้เป็นเศษซากในกองเพลิงได้เลย หากถามว่าเร็วและแรงขนาดไหน ก็ขนาดที่มีเทอร์นาโดที่เป็นไฟเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดูดไฟขึ้นจากพื้นจนเห็นเป็นเหมือนพายุเพลิง 

ปรากฎการณ์ ‘Fire Tornado’

ซึ่งจากปัจจัยทั้งหมด Climate Change ถือเป็นข่าวร้ายที่สุดเนื่องจากเป็นแนวโน้มว่าปีต่อๆ ไปไฟป่าจะมีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้วินยาร์ดต่างๆ ในแคร์ลิฟอร์เนีย เช่น Christine Clair เจ้าของ Willamette Valley บอกว่าปัญหาเรื่องสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงนั้นส่งผลต่อธุรกิจการผลิตไวน์ใน California เป็นอย่างมาก ทำให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเหล่าโรงบ่มไวน์ทั่วโลกต่างเริ่มหาทางรอดให้กับธุรกิจตัวเองด้วยการย้ายไปยังโซนที่มีความเย็นกว่า อย่าง Oregon, Washington, Newyork หรือมุ่งลงใต้ไป Texas ที่มีอากาศร้อนไปเลย แต่ไม่มีไฟป่า แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีผู้ปลูกไวน์บางกลุ่มที่ยังมีความเชื่อมั่นที่จะทำไร่องุ่นต่อไปในพื้นที่เดิมครับ 

 

สิ่งที่ผู้ปลูกไวน์ต้องแบกรับและเผชิญจากผลของฤดูไฟป่า

Ryan Klobas ผู้เป็น CEO ของ Napa Farm Bureau หนึ่งในฟาร์มที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักเมื่อปีที่แล้วถึงขั้นกล่าวว่า ผู้ปลูกองุ่นทำไวน์ส่วนมากไม่มีประกันจึงไม่สามารถการันตีได้ว่าพวกเขาจะได้รับการชดเชยความเสียหายจากไฟป่า ดังนั้นหากผู้ปลูกองุ่นคนใดที่ได้รับผลกระทบจากปีที่แล้วไปเต็มๆแล้วยังโดนผลกระทบของปีนี้ไปอีกด้วย ก็มีแนวโน้มที่พวกเขาจะล้มเลิกกิจการไปเลยก็ได้ เพราะว่ามันสาหัสจริงๆ 

พูดถึงเรื่องการทำประกันของไร่องุ่นแล้วนั้น ทราบไหมครับว่าเจ้าของโรงบ่มไวน์หลายแห่งต่างวิ่งหาบริษัทเพื่อต่อสัญญาประกันภัยกันให้วุ่น แต่พวกเขากลับต้องพบว่าเรื่องการขอต่อประกันภัยนั้นถูกปฏิเสธจากบริษัทประกันหลายแห่ง ในเมือง Sonoma สมาชิก 100 จาก 400 คน ของสำนักงานฟาร์ม Bureau ได้รับแจ้งว่าบริษัทประกันจะไม่ทำการต่อสัญญาประกันภัยให้แก่ Napa Valley Register  อีกต่อไป นอกจากนั้นเจ้าของโรงบ่มไวน์หลายแห่งใน Napa ก็กำลังเผชิญสถานการณ์เดียวกันอยู่ 

เหตุผลที่บริษัทประกันปฎิเสธการต่อสัญญากับเจ้าของโรงบ่มไวน์หลายแห่งนั่นก็เพราะว่ามีความเสี่ยงที่จะขาดทุน ต้องเยียวยาค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนมหาศาลเพราะดูเหมือนว่าไฟป่าจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นในทุกปีนับตั้งปี 2017 เป็นต้นมา ยกตัวอย่างเช่น Risk Strategies บริษัทประกันในพื้นที่ดังกล่าวถึงกับเอ่ยว่า มีโรงบ่มไวน์ 180 แห่งที่เรียกร้องค่าทดแทนจากเหตุไฟป่ากว่า 22 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นจึงเป็นการดีต่อบริษัทที่จะไม่รับความเสี่ยงนั้นเอาไว้

 

หนทางการช่วยเหลือผู้ปลูกไวน์ และความหวังในอนาคต

Napa Valley Vintners association (NVV) ซึ่งเป็นความพยายามในการช่วยเหลือเหล่าผู้ปลูกไวน์ในระดับภูมิภาค มีเป้าหมายในการควบคุมอัคคีภัยในพื้นที่ดังกล่าว Rex Stults รองประธานฝ่ายอุตสาหกรรมสัมพันธ์ของ NVV ได้กล่าวว่า จากประสบการณ์ไฟป่าที่ผ่านมาทำให้พวกเขาไม่สามารถนั่งรออยู่เฉยๆและภาวนาให้ไฟป่านั้นจบลง พวกเขาต้องตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง ด้วยเหตุนี้ NVV จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการไฟป่าจำนวน 50 คน พร้อมด้วยคณะทำงานสามกลุ่ม กลุ่มแรกให้หาวิธีจะทำให้เจ้าของไร่องุ่นปกป้องไร่ของพวกเขาจากไฟป่าให้ได้ กลุ่มที่สองคือกลุ่มผจญเพลิง และกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มที่จะต้องวิธีหาการหยุดต้นตอหรือเชื้อเพลิงที่ทำให้เกิดไฟป่าให้ได้

เอาเป็นว่าสถานการณ์ในช่วงนี้ค่อนข้างตึงเครียดเลยทีเดียวครับ ยังไงก็คงต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิดและไวน์แมนก็หวังว่าไฟป่าจะสงบลงและสถานการณ์ก็กลับมาดีขึ้นในเร็ววันครับ!

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ
preloader