fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

เปิดตำนานไวน์ Tignanello ต้นกำเนิด Super Tuscan

August 17, 2020

Tignanello (หรือ Antinori Tignanello) คือหนึ่งในไวน์อิตาลีที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ทั้งในและนอกประเทศ ด้วยความเป็นมาที่ยาวนานภายใต้การดูแลจัดการของตระกูล Antinori เริ่มทำไวน์มาตั้งแต่ปี 1300 ทั้ง Chianti Classico ไปจนถึง super tuscan ขวดแรกของโลก ก็ผ่านมือ Tignanello มาหมด จึงกล่าวได้ว่า Tignanello คือสุดยอดแห่งไวน์อิตาลี ชนิดที่ว่ายากจะต่อกรเลยล่ะครับ! 


ไวน์แนะนำ



ประวัติความเป็นมาของ Tignanello

Tignanello เป็นส่วนหนึ่งของหนึ่งในผู้ผลิตไวน์ที่ทางอิทธิพลที่สุดในอิตาลีอย่างตระกูล Antinori ซึ่งหากพูดกันแล้ว คงมีผู้ผลิตไวน์ไม่กี่จ้าวในโลกที่สามารถพูดได้ว่าตนเองมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและเหนียวแน่นเท่ากับ Antinori เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1385 ที่ Giovanni di Piero Antinori เป็นผู้ริเริ่มเขียน “Arte Fiorentina dei Vinattieri” ซึ่งเป็นไกด์ในการผลิตไวน์เล่มแรกๆ ตั้งแต่ยุคสมัย Florentine ซึ่งกิจการและความรักในการผลิตไวน์ได้ถูกส่งมารุ่นสู่รุ่น ยาวนานกว่า 6 ศตวรรษ 26 เจนเนอเรชั่น

ซึ่งต่อมาในปี 1460 ตระกูล Antinori ขยายกิจการทำไวน์เรื่อยๆ จนกลายเป็นหนึ่งในตระกูลที่รวยที่สุดในอิตาลี แต่ต่อมาช่วง 1500 ไปจนถึง 1700 อิตาลีเข้าสู่ช่วงที่มีความขัดแย้งมากมาย ทั้งทางด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจทำให้ธุรกิจไวน์ถดถอยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะตระกูล Antinori ที่มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นจนถึงขั้นโดนเนรเทศไปประเทศสเปนเลยก็มี

แต่สุดท้าย Antinori กลับมาผงาดอีกครั้งในช่วง 1900 ด้วยฝีมือของ Piero Antinori ซึ่งเขาตัดสินใจซื้อที่ประมาณ 300 ไร่ บริเวณ Chianti Classico มุ่งเน้นผลิตไวน์คุณภาพ และในปี 1924 Niccolò Antinori ลูกชายของ Piero ได้ทดลองผลิตไวน์สไตล์บอร์โดซ์ในไร่ ซึ่งตอนแรกถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่สุดท้าย Niccolò คู่กับพ่อของเขา และภรรยา Carlotta ก็ทำให้คนยอมรับจนได้ อันเป็นไวน์สั่นคลอนวงการไวน์อิตาลีอย่างมากถึงขนาดต้องนิยามไวน์รูปแบบนี้ว่า Super Tuscan จนกระทั้งวในปี 1970 ไวน์ภายใต้ชื้อ Tignanello จึงถือกำเนิดขึนอย่างเป็นทางการ และต่อมาในปี 1971 ไวน์ Tignanello ก็ได้ชื่อว่าเป็นไวน์แรกสุดภายใต้ชื่อ super tuscan

ซึ่งมาถึงปัจจุบันไวน์ Antinori ยังคงถูกผลิตด้วยคุณภาพ รสชาติที่ดั้งเดิม โดยครอบครัวเดิม แต่ตอนนี้กิจการถูกส่งให้กับลูกของ Niccolò ชื่อ Marchese Piero Antinori นอกจากนั้นตระกูล Antinori ยังลงทุนกับไวน์ในหลากหลายพื้นที่ ตั้งแต่วินยาร์ดใน Piedmont และ Apulia ไปจนถึงนอกประเทศอย่างวินยาร์ดในอเมริกา และชิลี เป็นต้นครับ

พื้นที่ของ Tignanello

วินยาร์ดอันงดงามของวินยาร์ด Tignanello ขนาดใหญ่ยักษณ์กินพื้นที่เกือบ 2,000 ไร่ ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของพื้นที่ Chianti Classico ระหว่างแม่น้ำ Greve และ Pesa ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ดีที่สุดในพื้นที่ทัสคานีเลยก็ว่าได้ครับ เพราะนอกจากจะได้พื้นที่ที่มีลักษณะเป็นเนินเตี้ยๆ หันองุ่นให้โดนแดดดีและง่ายต่อการเก็บเกี่ยว ยังได้ดินที่มีส่วนผสมของหินปูนดินสอพอง และหินซีสต์ (schist) หรือหินดินดาน ส่วนทางด้านสภาพอากาศก็จะมีอากาศอบอุ่น ไปจนถึงร้อน ทั้งปี จึงได้องุ่นที่รสชาติเข้มข้น ซับซ้อน คุณภาพเยี่ยม และยังสามารถผลิตได้ในปริมาณที่มากอีกด้วยครับ

ซึ่งจะแบ่งวินยาร์ดออกเป็น 2 ฝั่งครับตามสภาพของเนินเขา โดยฝั่งที่โดนแสงแดดเยอะจะให้ชื่อว่า Solaia ส่วนอีกฝั่งจะโดนแสงแดดน้อยกว่าจะชื่อว่า Tignanello ทั้งสองวินยาร์ดสามารถปลูกทั้งองุ่นดั้งเดิมอย่าง  Sangiovese ไปจนถึงสายพันธุ์ที่นำมาจากฝรั่งเศสอข่าง Cabernet Sauvignon และ Cabernet Franc ได้อย่างดีเยี่ยมครับ

ไวน์ของ Tignanello

เน้นไปที่ไวน์แดง ตั้งแต่ไวน์ดีกรี Chianti Classico Docg Riserva ที่เน้นรสชาติของ Sangiovese (ประมาณ 80% ขึ้นไป) ไวน์อิตาลีสุดคลาสสิค ไปจนถึงไวน์ที่เป็นต้นกำเนิดของ super tuscan ไวน์แดงเบลนด์สไตล์บอร์โดซ์แต่ผสมเอกลักษณ์ของอิตาีด้วยการเบลนด์ Sangiovese เข้าไปด้วย ผสมผสานกับองุ่นสายพันธุ์ฝรั่งเศสอย่าง Cabernet Sauvignon และ Cabernet Franc 

Marchese Antinori, Tenuta Tignanello, 2013 – ไวน์ที่ใช้ชื่อนี้จะผลิตในสไตล์ของ Chianti Classico เน้นรสชาติของ Sauvignon เต็มๆ จนได้เป็นไวน์สีแดงทับทิมเข้มผสมสีม่วงอ่อน รสชาติเข้มข้น เต็มไปด้วยโน๊ตของผลไม้สีแดงสุกงอม และเชอร์รี่ป่า อีกทั้งยังมีกลิ่นอ่อนๆ ของใบยาสูบ หนัง และเครื่องเทศอ่อนๆ ระดับ tannins และ acidity สมดุล พร้อมกับรสชาติที่ค้างอยู่ในปากที่ยาวนาน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากลิ้มรสชาติไวน์อิตาลีดั้งเดิม ดีกรี Chianti Classico Docg

Tignanello, 2007 – เป็นไวน์สไตล์ super tuscan ถือว่าเป็นปีที่องุ่นสุกงอมเร็วกว่าปกติ ทำให้รสชาติไวน์โดดเด่นขึ้นมาชัดเจน ด้วยโน้ตของเรดฟรุ๊ตและเครื่องเทศจัดจ้าน สอดแทรกไปด้วยโน้ตอ่อนๆ ของวานิลลาและขนมปังอบ ให้ความรู้สึกหรูหราสุดๆ ไปเลยครับ 

Tignanello, 2010 เป็นปีที่มีสภาพอากาศค่อนข้างแตกต่างจากปีอื่นๆ เพราะนอกจากจะมีปริมาณน้ำฝนที่เยอะ ช่วงปลายปี 2009 ยังมีอากาศที่สูงกว่าปีอื่นๆ และมีหิมะตกด้วย ส่งผลให้ได้ไวน์สีแดงทับทิมเข้มข้น ได้โน๊ตของผลไม้สีแดง ราสเบอร์รี่ และชะเอมเทศ ซึ่งแม้จะไม่ได้ผ่านการเอจ ก็ยังมีโครงสร้างที่แข็งแรง และ tannin ที่ละเอียดอ่อน หากใครชอบไวน์ที่รสชาติสมดุล ละมุนละไม ต้องเลือกปีนี้เลยครับ

Solaia, 2012 – ไวน์ super tuscan แต่เป็นรสชาติที่ดื่มง่ายกว่า Tignanello ปกติ เพราะเป็นไวน์ที่มีเสน่ห์ตรงที่ความสดชื่น สดใส แต่ก็ยังคงความเข้มข้นของไวน์ไว้อย่างครบถ้วนด้วยโน้ตของผลไม้ชัดเจน หอมขึ้นจมูก มี tannin และ acidity ที่สมดุล พร้อมรสชาติที่ค้างอยู่ในปากยาวนาน 

วินเทจน์แนะนำสำหรับไวน์ Tignanello : 1978, 1985, 1990, 1997, 1999, 2001, 2004, 2007, 2010 และ 2013 (วินเทจน์เก่าๆ อาจค่อนข้างหายากหน่อยนะครับ หากใครหาเจอ แนะนำว่าให้ซื้อมาเก็บไว้เลยครับ)

จับคู่ Tignanello กับเมนูโปรด

แน่นอนว่าไวน์อิตาลีแท้ๆ อย่าง Chianti classico ของ Tignanello ก็จะต้องเข้ากับอาหารอิตาเลี่ยนรสจัดจ้าน Ossobuco หรือ ออสโซบูโก ซึ่งเป็นสตูรสเข้มข้น ทำจากเนื้อน่อง หรือบางเจ้าอาจนำขาวัวมาต้มตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย ทานกับมันบด หรือพาสต้าก็ได้ โดยสตูมีการหมักด้วยไวน์แดงอยู่แล้ว ทานคู่กับไวน์แดง ก็จะเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติอาหารได้อย่างดีเยี่ยม

สำหรับไวน์แดง full-body รสชาติเข้มข้นอย่าง Tignanello จะเหมาะอย่างยิ่งกับอาหารประเภทโปรตีน และแป้ง ที่มีรสชาติจัดจ้านเช่นสปาร์เก็ตตี้โบโลเนส ไปจนถึง boar ragu ซึ่งเป็นเมนูท้องถิ่นประจำอิตาลี คล้ายๆ ลาซันญ่า ผสมกับสตูเนื้ออบ รสาติเข้มข้นของมะเขือเทศตัดกับไวน์แดงได้เป็นอย่างดีเลยครับ

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ
preloader