fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

เปิดกรุ Cabernet Sauvignon ไวน์ No.1 ของโลก

August 14, 2020

หากกล่าวว่า Cabernet Sauvignon เป็นราชันขององุ่นทั้งหมด ก็คงจะเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินจริงซักเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ปี 2010s องุ่น Cabernet Sauvignon ครองตำแหน่งองุ่นที่มีการปลูก และผลิตเป็นไวน์มากที่สุดในโลก นับตั้งแต่โลกคลั่งไคล้ในไวน์แดง Cabernet Sauvignon ก็กลายเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ของใครๆ หลายๆ คน ด้วยรสชาติที่เข้มข้น ดุดัน และความซับซ้อน เต็มไปด้วยโน้ตที่เป็นเอกลักษณ์ Cabernet Sauvignon แต่ละพื้นที่ไม่เคยมีรสชาติเหมือนกันเลย เป็นองุ่นที่ปรับตัวเข้าได้กับสภาพอากาศที่หลากหลายมากๆ


ไวน์แนะนำ



ประวัติของ Cabernet Sauvignon

จุดกำเนินของ Cabernet Sauvignon ปกคลุมไปด้วยปริศนา มาจนถึงปี 1997 มีนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า Cabernet Sauvignon มีต้นกำเนิดในประเทศฝรั่งเศส บริเวณตะวันตกเฉียงใต้ (สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นรบริเวณแคว้นบอร์โดซ์) ช่วงศตวรรษที่ 17 เกิดจากการผสมกันระหว่างองุ่นเเดง Cabernet Franc และองุ่นขาว Sauvignon Blanc ซึ่งความบังเอิญที่โชคดีครั้งนั้นทำให้ถือกำเนินเป็น Cabernet Sauvignon องุ่นรสชาติเข้มข้น ที่สามารถปรับตัวเข้ากับพื้นที่ได้หลากหลาย นับว่าเป็นองุ่นที่อายุค่อนข้างน้อยมากหากเทียบกับ Mascato ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานถึง 1000 ปี

จนกระทั้งในปี Cabernet Sauvignon เดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปสู่แผ่นดินใหม่ของอเมริกาได้สำเร็จ และหลากหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ Napa Valley สามารถปลูก Cabernet Sauvignon คุณภาพเยี่ยมได้สำเร็จ จึงทำให้ทั้งโลกเริ่มหันมาสนใจองุ่นสายพันธุ์นี้อย่างโงหัวไม่ขึ้นเลยครับ

ลักษณะและรสชาติของ Cabernet Sauvignon

องุ่นพันธุ์นี้จะมีผิวที่หนาเเละมีจุดเล็กๆให้เห็นบนผิว โดยทั่วไปเเล้วองุ่นพันธุ์นี้มีเเทนนินสูง เเละมีสีที่เข้ม โดยไวน์ที่ได้จาก Cabernet Sauvignon จะมีสีเข้มทึบแดงอมม่วงทรงด้านรสชาติ จะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและสภาพดินที่องุ่นถูกปลูกครับ แต่หลักๆ แล้ว รสชาติของไวน์ Cabernet Sauvignon คือจะเป็นไวน์ full-bodied ที่มี tannin ปานกลาง ค่อนไปทางสูง acidity ปานกลาง ได้รสของดาร์คฟรุ๊ต แอบซ้อนรสชาติเข้มข้น หนักแน่นของพริกไทยและพริกหยวก ซึ่งนี้เป็นเพียงแค่รสชาติหลักๆ เท่านั้นนะครับ เหตุผลหลักที่ทำให้คนหลงรัก Cabernet Sauvignon คือความซับซ้อนของโน้ตที่ซ้อนอยู่ในไวน์ เช่นแบล็คเชอร์รี่ แบล็คเคอร์เรนท์ และแบล็คเบอร์รี่ ไปจนถึง  ใบยาสูบ ชะเอมเทศ วานิลลา และดอกไวโอเล็ท

แต่ส่วนมากแล้ว หากเราพูดถึงไวน์ Cabernet Sauvignon ในไวน์โลกเก่าอย่างฝรั่งเศส หรืออิตาลี ไวน์ Cabernet Sauvignon ที่คุณดื่มเข้าไปจะไม่ได้มาจาก Cabernet Sauvignon 100% นะครับ ยกตัวอย่างเช่นพื้นที่ที่เป็นต้นกำเนิดของ Cabernet Sauvignon นั่นคือบอร์โดซ์ จะนิยมนำ Cab ไปผสมกับพันธุ์องุ่นอื่นๆ เช่น Merlot, Cabernet Franc และอื่นๆ อีกมากมายที่ได้ชื่อว่าบอร์โดซ์เบลนด์ ซึ่งเป็นที่นิยมขนาดที่มีหลากหลายประเทศเอาไปเลียนแบบครับ จึงทำให้หากจะหา Cabernet Sauvignon 100% ในประเทศเช่นฝรั่งเศส จะค่อนข้างยากเล็กน้อย ซึ่งในประเทศไวน์โลกใหม่อย่างอเมริกา จะหาได้ง่ายกว่าครับ

Cabernet Sauvignon ในที่ต่างๆของโลก

ต้นองุ่นนั้นสามารถเติบโตในสภาพอากาศที่อบอุ่นมีเเสงเข้าถึงเเละเติบโตได้ดีในประเทศชิลี,โรมาเนีย, ออสเตรเลีย, อิตาลี, อเมริกาใต้เเละอาร์เจนติน่า เเละการสามารถปรับตัวในพื้นที่เเละสภาพอากาศที่เเตกต่างกันได้ของต้นองุ่นพันธุ์นี้ก็ทำให้มีผู้ผลิตไวน์สัญชาติจีนตั้งใจที่จะปลูกองุ่นนี้ในทะเลทรายโกบี

นอกจากนี้ยังเติบโตได้ดีในทางตะวันออกของรัฐวอชิงตัน ประเทศอเมริกา ซึ่งเป็นเมืองที่มีฝกตกมากในหนึ่งปีเเละยังเป็นที่นิยมในหมู่อเมริกัน จากผลสำรวจ มีชาวอเมริกันจำนวนถึง 26.56 ล้านคนซื้อไวน์ชนิดนี้ต่อปี

Bordeaux 

ถือว่าเป็น OG ของไวน์ Cabernet Sauvignon เลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งหากคุณต้องการไวน์แดงเบลนด์ตามแบบฉบับของบอร์โดซ์เบลนด์ “Bordeaux Blend” รสชาติเข้มข้นซับซ้อน นี่คือที่ที่คุณจะต้องมาครับ ซึ่งดินของบอร์โดซ์เป็นดินหินกรวดที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ โดยจะมีพื้นที่ย่อยที่สามารถผลิตCabernet Sauvignon ที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกคือ Médoc, Graves, Côtes de Bourg และ Blaye ซึ่งโน้ตหลักคือแบล็คฟรุ๊ต เสริมด้วยเทียนสัตตบุษย์ ใบยาสูบ พลัมซอส และใส่ดินสอ

The North Coast AVA 

เป็นข้อพิสูจน์ว่าไวน์โลกใหม่ก็สามารถปลูก Cabernet Sauvignon ได้ดีไม่แพ้ฝรั่งเศสเลยครับ โดยมีพื้นที่ที่น่าจับตามองคือ Napa Valley และ Sonoma ที่สามารถผลิต Cabernet Sauvignon รสชาติเข้มข้นละมุนละไม ซึ่งมีโน๊ตเด่นๆ คือแบล็คฟรุ๊ต ใส่ดินสอ ใบยาสูบ และมิ้น ทำเข้มข้นหนักแน่น และสดชื่น เป็นที่นิยมอย่างมากหลักจากเหตุการ Judgement of Paris ที่เกิดขึ้นในปี 1976 ซึ่งหากคุณรู้ว่าผมกำลังหมายถึงอะไร คุณคือคอไวน์ตัวจริง แต่หากใครยังไม่รู้ คลิกไปอ่านเพิ่มเติมได้เลยครับ!

Napa VS Bordeaux  – หลายคนคงกำลังสงสัยว่าสุดท้ายแล้วความคลาสสิคจากไวน์โลกเก่า หรือไวน์จากโลกใหม่ แบบไหนจะดีกว่ากัน ซึ่งสุดท้ายแล้วก็จะขึ้นกับรสนิยมของแต่ละคนนะครับ แต่อาจพูดได้ว่าหากต้องการรสชาติแบบ Earthy ไวน์จากบอร์โดซ์อาจเหมาะกับคุณ ส่วนใครชอบไวน์ที่มีรสผลไม้เข้มข้นเด่นกว่า ต้องเลือก Napa เลยครับ

ออสเตรเลียใต้

เป็นพื้นที่ที่สามารถปลูก  Cabernet Sauvignon รสชาติมีเอกลักษณ์ได้ โดยเฉพาะในพื้นที่ Coonawarra ที่มีอากาศอบอุ่น และมีดินแดงที่อุดมไปด้วยแร่เหล็ก ควบคู่ไปกับพื้นที่ Langhorne Creek ที่สามารถผลิตไวน์แดง Cabernet Sauvignon อันออกโน้ตหวานๆ เช่นลูกอมและช็อกโกแล็ต สำหรับใครที่คิดว่า  Cabernet Sauvignon รสชาติหนักเกินไป ต้องลองไวน์ของออสเตรเลีย ซึ่งอาจมีโน้ตที่คุณไม่คาดคิดว่าจะเจอใน Cabernet Sauvignon ทั่วไป

ชิลี

ไวน์จากชิลีมี Cabernet Sauvignon ในราคาที่ถูกที่สุด! อีกทั้งยังมีรสชาติโดดเด่นเฉพาะตัวของฟิก, สมุนไพรอบ และเมล็ดพริกไทยเขียว อันเป็นความจัดจ้านเอกลักษณ์ของไวน์อเมริกาใต้ โดย Cabernet Sauvignon ที่ดีที่สุดสามารถหาได้ที่ Aconcagua, Maipo, Cachapoal และ Colchagua Valleys.

มาเสิร์ฟไวน์ Cabernet Sauvignon กันเถอะ

ด้วยความที่ Cabernet Sauvignon นั้นเป็นไวน์ full-bodied และมีระดับแอลกอฮอล์สูง เเก้วที่ไวน์เเมนขอเเนะนำจึงเป็น large Bordeaux จะได้ช่วยให้แอลกอฮอล์ระเหยออกได้ง่าย ส่วนอุณหภูมิควรดื่มที่ 15-20 องศา เหมือนไวน์เเดงเข้มๆทั่วไปครับ เเละอย่าลืม decant ด้วยนะครับ ทิ้งไว้สัก 2 ชั่วโมงกำลังดีเลย

การจับคู่ไวน์กับอาหาร

เนื่องจากไวน์นี้มีเเทนนินที่สูง ไวน์เเดงที่มีรสเข้มข้นนี้จึงเหมาะกับอาหารที่มีโปรตีนสูงหรืออาหารที่มีไขมันสูง (อย่างเช่น เนื้อส่วนซี่โครง, เสต็ก, ไส้กรอกเเละเเฮมเบอร์เกอร์) อาหารประเภทนี้เหมาะมากที่จะทานกับไวน์ Cabernet Sauvignon ไวน์นี้ก็ยังสามารถเข้ากับซีส Stilton เเละ Gruyère ได้ดีอีกต่างหาก ถือว่าเป็นทางเลือกอย่างหนึ่งสำหรับคนที่ทานมังสวิรัติ

ถ้าใครอยากได้รสชาติที่เป็น  perfect pair จริงๆ ผมขอเเนะนำ Cabernet Sauvignon กับเสต็กพริกไทยดำครับ เพราะตัว Cab Sav เนี่ยเขามีความเข้ม เเทนนินสูงเเละก็มีกลิ่นของพริกไทยดำนิดๆ เมื่อมาเจอกลิ่นพริกไทยดำที่ earthy ของสเต็ก  กลิ่นหอมของไวน์ก็ติดเกาะติดกับรสชาติของสเต็กทำให้ไวน์มีรสชาติของผลไม้มากขึ้น ยิ่งถ้าเป็น Cabernet Sauvignon จาก left-bank Bordeaux เเละ Napa Cabernet นะครับ บอกเลยว่าใครไม่ชอบก็บ้าเเล้ว

Cabernet Sauvignon ไวน์คลาสสิคที่ตกทอดมารุ่นสู้รุ่น

ถึงเเม้ว่าเราจะได้ลองลิ้มรสไวน์ใหม่ๆ เเต่เราก็ไม่สามารถลืมรสชาติที่มีความคลาสสิกของไวน์ Cabernet Sauvignon ได้ ผลพวงจากการเอาอุง่นผสมพันธุ์กันโดยไม่ตั้งใจกลายมาเป็นอุง่นพันธุ์ชั้นเลิศที่โด่งดังไปทั่วโลก ความบังเอิญที่ทำให้เราได้ลิ้มลองหนึ่งในรสชาติที่ดีที่สุดของไวน์ “Cabernet Sauvignon”

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ
preloader