เวลาพูดถึง Opus One คอไวน์ทั้งหลายก็คงอดน้ำลายไหลไม่ได้ Opus One ถือว่าเป็นไวน์ดีระดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว ขวดละเป็นหลายหมื่นเเละเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมเพราะราคาขึ้นอยู่เรื่อยๆ
ประวัติของ Opus One : ย้อนไปเกือบครึ่งศตวรรษ Opus One นั้นเกิดจากการร่วมมือของ Robert Mondavi จาก Napa Valley เเละ Baron Philippe de Rothschild จาก BordeauxRobert Mondavi มักได้รับการยกย่องในการนำชื่อเสียงของ Napa Valley ของแคลิฟอร์เนียให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
Baron Philippe de Rothschild ก็ได้รับการยกย่องจากการที่เขาฟื้นฟูให้ ไวน์ 1st growth ของ Château Mouton Rothschild ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ (first growth หมายความว่า ไวน์ Bordeaux ระดับสูงสุด)
ในเวลานั้น ทั้งสองคนซึ่งเป็นไอคอนขององุ่น Cabernet Sauvignon ทั้งในประเทศอริเมริกาเเละฝรั่งเศสนั้นได้ไปพักผ่อนหย่อนใจกันที่โรงแรม Mauna Kea Beach บนเกาะฮาวาย ซึ่งจากการพบกัน พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะหุ้นกันทำไวน์คลาสสิก Old World ที่ดีที่สุดจาก Bordeaux เเต่โตเเละผลิตใน California ภูมิภาคไวน์ New World ผลจากการร่วมมือนี้ทำให้เกิดไวน์วินเทจอันแรกซึ่งผลิตในปี 1979 ในปัจจุบันนี้ Opus One ก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด
รสชาติของ Opus One
ถ้าคุณโชคดีมากพอที่จะชิม Opus One คุณจะเห็นเป็นเสียงเดียวกับไวน์เเมนว่า Opus One เป็นไวน์ที่สามารถดื่มได้ทันทีหลังจากถูกผลิตออกมา เพราะให้รสชาติเเละโครงสร้างดีเยี่ยมไม่น้อยไปกว่าไวน์ที่เอจไว้นาน เเละมีความสดชื่นเเจ่มใสกว่าอีกด้วย คุณจะได้รับถึงกลิ่นหอมคล้าย Bordeaux ในขณะเดียวกันก็ให้ความรู้สึกของผลไม้สุกที่ปลูกในที่มีการปลูกใน Napa Valley
ในไร่องุ่น
จะมีการใช้องุ่นที่ผลิตไวน์แดงที่สามารถปลูกทั้งในNapa Valley เเละ Bordeaux (เช่น Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Merlot, Malbec, Petit Verdot) มีไร่องุ่นที่สำคัญสี่แห่งในพื้นที่ของ Opus One ไร่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ Kalon ในกระบวนการเก็บเกี่ยวจะมีความระมัดระวังในการเลือกวันเก็บอย่างมาก เช่นเดียวกับในโรงผลิตไวน์ระดับสูงหลายแห่ง การชิมองุ่นจะเริ่มค่อนข้างเร็วเพื่อหาเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยว จากนั้นองุ่นจะถูกส่งผ่านเครื่องคัดแยกเพื่อคัดเฉพาะองุ่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่านั้น มีการเอจในถังไม้โอ๊คฝรั่งเศสใหม่ประมาณ 20 เดือน
Michael Silacci
เครดิตของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้ตกอยู่ที่ผู้ผลิตไวน์ Michael Silacci โดยเขาเข้ามาดูเเลการผลิตในปี 2544 เมื่อไม่นานนี้ Michael Silacci ได้มีการเปิดเผยแง่มุมที่น่าสนใจในกระบวนการผลิตของเขา หลายคนรู้สึกเเปลกใจในระบบเเหวกเเนวต่างๆ ของ Michael Silacci
หลายคนประทับใจมากกับความเอาใจใส่ของเขาในการเก็บเกี่ยวเเละระบบผลิต รวมถึงวิธีบริหารเเนวใหม่ของเขา ยกตัวอย่างเช่น พนักงานออฟฟิสในโรงผลิตไวน์อย่าง พนักงานต้อนรับหรือนักบัญชีจะได้มีส่วนร่วมในการผลิตทั้งปี พนักงานจะถูกเเยกเป็นหลายทีม เเต่ละทีมจะมีหน้าที่เก็บเเละผลิตองุ่นของตัวเอง เเละจะมีการเเข่งขันว่าทีมไหนผลิตองุ่นออกมาได้เยี่ยมที่สุด ระบบนี้นอกจากจะช่วยในการค้นคว้าวิธีปฏิบัติได้ดีที่สุดเเล้วก็ยังช่วยผลักดันพนักงานอีกด้วย
ครั้งหน้าถ้าไปสหรัฐลองไปเยี่ยมไร่ของ Opus One ดูนะครับ Opus One ตั้งอยู่ที่ Oakville, California เเละเปิดให้จองเข้าไปชมได้
บทความโดย Wineman Thailand
อ่านบทความเรื่อง ไวน์ Oregon (โอเรกอน) – ไวน์อเมริกันที่กำลังมาแรง
