ถ้าจะให้เลือกไวน์อิตาลีที่ดีที่สุดซักขวด คำตอบสำหรับคำถามนี้คงทำให้ทางไวน์แมนปวดหัวไม่น้อยเลยครับเพราะเป็นที่ทราบดีว่าคุณภาพของไวน์อิตาลีนั้นขึ้นชื่อทั้งในด้านการผลิต และรสชาติอยู่แล้ว ยิ่งโดยเฉพาะไวน์จากแคว้น Tuscany แล้วบอกเลยตรงๆ ว่ายิ่งปวดหัวไปกันใหญ่เลยครับ แต่ถ้าหากจะให้เลือกไวน์อิตาลีที่เรียกได้ว่าเป็นระดับตำนานที่ยังสามารถหามาสัมผัสรสชาติได้ในปัจจุบันเชื่อเลยครับว่า “Masseto” (มาเซโต้) ควรถูกจดให้อยู่ลิสต์ที่คอไวน์หลายคนต้องเฟ้นหามาดื่มชิมให้ได้ซักครั้ง เมื่อเร็วๆเร็วๆนี้นักวิจารณ์ไวน์ชื่อดัง James Suckling (เจมส์ ซัคลิ่ง) ได้เขียนบทความยกย่อง Masseto เป็น “สุดยอดไวน์ทัสกานีแห่งทศวรรษ” ไวน์แมนจึงอยากขอแชร์เรื่องราวของไวน์ Masseto ให้ผู้อ่านครับ
ไวน์แนะนำ
ไวน์ Masseto ที่แสนโด่งดังตัวนี้อยู่ภายใต้ผู้ผลิตไวน์ขั้นเทพ Ornellaia เป็น ฉลากที่ 2 ของ Ornellaia ไวน์ Masseto แตกต่างจาก Super Tuscan ตัวอื่นโดยการใช้องุ่นสายพันธุ์ Merlot เป็นหลักในการผลิตไวน์แทนที่จะใช้ Cabernet Sauvignon เหมือน Super Tuscan ตัวอื่นๆ ไวน์นั้นผลิตในตำบล Bolgheri บนพื้นที่ไร่เพียง 7 เฮคตาร์ คุณภาพการผลิต Masseto นั้นเป็นที่ทราบดีว่าได้รับการใส่ใจอย่างพิถีพิถันตั้งแต่การปลูกไปจนถึงการเก็บเกี่ยว
โดยทั่วไป Masseto ถือว่าเป็น Super Tuscan ที่มีราคาแพงที่สุดเลยครับ ราคาต่อขวดจะพุ่งไปกว่า 50,000 บาท แต่ถึงราคาจะแพงขนาดนี้ผลิตมากี่ลอตก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทุกลอตเลยครับ คุณภาพรสชาติของมาเซโต้นั้นเป็นที่เลื่องลือกันในหมู่ของนักชิมไวน์อย่างมาก ความ acidity สดชื่นที่ให้เนื้อสัมผัสซับซ้อน รสชาตินั้นนุ่มนวลแต่เข้มข้น จัดจ้าน แตกต่าง Merlot ของ Bordeaux ที่รสชาติจะอ่อน และบอบบางมากกว่า vintage ที่ดังที่สุดของ Masseto นั้นคือ 2011 ซึ่งนักวิจารณ์ไวน์คนดัง James Suckling ได้กล่าวถึงตัวนี้ไว้ว่า “เป็นไวน์ที่ perfect ไร้ที่ติ และเป็นหนึ่งในไวน์ที่ดีที่สุดของ Tuscany ที่ได้เคยมีมา คะแนนของ vintage อื่นก็สุดยอดเหมือนกัน ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในระหว่าง 97-100 คะแนน นับว่าเป็นตัวเชิดหน้าชูตาเลยก็ว่าได้ครับ นักวิจารณ์ไวน์หลายคนนำเอาไวน์ขวดนี้มาเปรียบเทียบกับสุดยอดไวน์ในตำนานอย่าง Petrus
ไม่นานมานี้ Masseto พึ่งเปิด Winery ของตัวเองไปครับหลังจากที่ก่อนนั้นได้ผลิตในไร่ไวน์ Ornellaia โดย Winery นั้นซ่อนตัวอยู่ภายใต้พื้นดินครอบคลุมอาณาเขตกว่า 27,000 ตารางฟุต พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนด้วยประตูรูปทรงตัววีขนาดใหญ่ออกแบบด้วยสถาปัตกรรมที่ดูล้ำสมัยฝีมือของสตูดิโอออกแบบ “ZITOMORI” ในกรุงมิลาน ให้ความรู้สึกทันสมัยขัดแย้งกับภาพลักษณ์เดิมๆ ของไร่ไวน์ การใช้วัสดุของแก้ว สแตนเลส หินเคลย์ รวมถึงการใช้หินซึ่งถือเป็นกิมมิคเล็กๆ ของการออกแบบให้พ้องความหมายกับ Masso ซึ่งแปลว่าหินนั่นเองครับ
Axel Heinz ผู้อำนวยการไร่ไวน์มาเซโต้ถึงขนาดออกปากชมในความสวยงามมินิมอลซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการผลิตไวน์มาเซโต้ในอนาคตที่จะลดขั้นตอนการผลิตให้มีความซับซ้อนน้อยลง นอกจากภายนอกจะดูสวยงามในสไตล์ “Less is More” แล้วภายในของ Winery นั้นถูกออกแบบให้สอดรับแนวคิดการผลิตในรูปแบบ Gravity-Flow โชว์ความลื่นไหลกรรมวิธีการผลิตอย่างครบถ้วนพร้อมยังมีพื้นที่ให้ทางผู้ผลิตได้โชว์ไวน์ตัวดังของตัวเองทั้ง 32 ไลน์การผลิตด้วยครับ
เเต่ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นอายไวน์อิตาลี่เท่าไหร่ งั้นลองเเบบจีนๆ ของ Long Dai หน่อยไหมครับ