หลายคนอาจจะเคยดื่มไวน์ที่เค้าบอกว่าเทพนักหนา แล้วไม่เก็ท ว่า ‘มันดียังไง?’ ‘ทำไมมันถึงพิเศษ และแพงขนาดนี้?’ เลยเป็นคำถามต่อว่าไวน์ที่ดี คำว่า “ดี” นั้นคืออะไร? และไวน์ “ดี” ต้องมีองค์ประกอบอะไร? คำถามสุดเบสิค แต่ตอบยากเหลือเกิน คอไวน์หลายคนต้องใช้เวลาครึ่งค่อนชีวิตเพื่อตามดื่มไวน์ชนิดต่างๆ เพื่อตอบคำถามนี้
ไวน์แนะนำ
ไวน์แนะนำ
วันนี้ผมขอยืมความรู้มาจากคัมภีไวน์ของ Karen MacNeil มาสรุปให้ทุกคนครับ
แน่นอนไวน์ที่ดีของแต่ละคน ก็คือไวน์ที่ดื่มแล้วเราอร่อยและชอบสิครับ ซึ่งก็ถูกครับ แต่การวิเคราะห์ไวน์แบบมีหลักการนั้น จำเป็นต้องคิดนอกกรอบสิ่งที่ตัวเองชอบด้วยครับ ไวน์แมนขอเปรียบเทียบกับวรรณคดี “รามเกียรติ์” บางคนชอบขนาดคลั่งไคล้ บางคน(ผม)มองว่าเป็นสิ่งที่น่าเบื่อมากๆ แต่ทุกคนไม่อาจปฎิเสธได้เลยว่ารามเกียรติ เป็นหนึ่งในวรรณคดีสุดคลาสสิคที่มีคุณค่ามาก เช่นเดียวกับไวน์ชั้นเยี่ยม เราทุกคนสามารถมองไวน์แบบ Subjective ได้ว่ารสชาติ ถูกใจ ไม่ถูกใจ หรือจะมองแบบ Objective เพื่อเข้าใจถึงคุณค่าที่ปฎิเสธไม่ได้ในไวน์ขั้นเทพแต่ละขวด ซึ่งการ appreciate ไวน์แบบ proควรผสมทั้ง subjective และ objective ครับ
ฉะนั้น คอไวน์ทั้งหลายครับ เราลองมาตัดสิ้นไวน์กันอย่างไร้ความลำเอียงที่สุด เพื่อให้รู้กันชัดๆ เลยครับว่า ไวน์ขั้นเทพ จะต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง!!
1.ความสมดุล (Balance & Intergration) : รสชาติของไวน์รวมกันเป็นเนื้อเดียว ไม่มีรสชาติไหนโดดเด่นออกมารุนแรงจนเกินไป ซึ่งทำให้บ่อยครั้งเวลาดื่มไวน์ขั้นเทพนั้น ผู้ดื่มจะพูดไม่ออก และไม่รู้ว่าจะอธิบายไวน์ว่าอะไรดี รสชาติเป็นหนึ่งเดียวจนอึ้งตะลึงไปเลยครับ
2.ความแตกต่าง (Distinctiveness) : ไวน์มีรสที่เป็นเอกลักษณ์จนบ่งบอกถึงวิธีการผลิต terroir หรือวินเทจอันเฉพาะเจาะจง จนทำให้รู้สึกว่าไวน์ขวดนี้ ไม่ได้มาจากที่ไหน หรือวินเทจอะไรก็ได้ แต่มีเพียงขวดเดียวในโลกเท่านั้น และยากที่จะหาได้อีก
3. ความซับซ้อน (Complexity beyond fruit) : ไวน์มีหลากหลายมิติ น่าค้นหา มีหลากหลายโน้ต ซึ่งค่อยๆ เผยโฉมอย่างช้าๆ มากกว่าแค่โน้ตพื้นฐานของเบอร์รี่ พลัม ครับ
4. ความคม (Precision) : แม้จะเป็นรสชาติที่รวมกัน แต่โน้ตต่างๆ ในไวน์ต้องมีความชัดเจน ไม่ผสมกันจนมั่วไปหมด เปรี่ยบได้กับเครื่องเสียงราคาแพง ที่มีเสียงเพลงไพเราะคมกริบไม่มีเสียงรบกวน
5. การจบ หรือ “ความยาว” ของไวน์ (Length / finish) : คือรสชาติที่ค้างในปากหลังจากกลืนไวน์ไปแล้ว ยิ่งค้างนานยิ่งดี ต่างจากไวน์ทั่วไปที่ดื่มแล้วรสหายทันที ไม่น่าจดจำ สื่อถึงโครงสร้างแทนนินที่แข็งแรง และโน้ตของไวน์ที่หนักแน่นครับ
ผมหวังว่าทั้ง 5 ข้อนี้ จะเป็น framework เบื้องต้นให้ทุกคนสำหรับการชื่นชมไวน์ในเชิง objective นะครับ ครั้งหน้าที่ดื่มไวน์แพงๆ แทนที่จะไม่คิดอะไรมากแล้วกลื่นลงไป ลองดื่มช้าๆ และคิดประเมินไวน์เทียบกับ 5 ข้อนี้นะครับ หวังว่าจะซาบซึ้งไปกับไวน์มากขึ้นครับ
จริงๆ 5 ข้อนี้ ยังอธิบายเชิงลึกได้อีกยาวครับ แค่เขียนสรุปอย่างจะยังไม่ได้ฟีล ฉะนั้นในบทความหน้าผมจะเขียนเจาะลึกในแต่ละองค์ประกอบ อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ!