fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

วิธีจับคู่ไวน์ X ทรัฟเฟิล ให้หรูหราอร่อยเว่อร์!

October 18, 2020

ฟู้ดดี้หลายๆ คนเปรียบเทียบทรัฟเฟิลกับเพชรเม็ดงามแห่งวงการอาหาร ด้วยความหายาก และราคาต่อกรัมที่แพงหูฉี่ โดยแม้จะมีก่อนเล็กเพียงหนึ่งหยิบมือ แต่ก็แพ็ครสชาติ และกลิ่นอันแยบยล การจับคู่ไวน์และทรัฟเฟิล จึงเปรียบได้กับการจับคู่หญิงงาม กับแหวนเพชรซักวง หรือหนุ่มเท่ๆ กับรถสปอร์ทซักคัน เป็นการจับคู่ของดี high-end มารวมกันให้เกิดสุนทรีย์ที่ยากจะเทียบได้เลยล่ะครับ!

ไวน์แนะนำ

ทำการเข้าใจทรัฟเฟิลกันเสียหน่อย!

เห็ดทรัฟเฟิล เป็นดอกรา (เช่นเดียวกับเห็ดสายพันธุ์อื่นๆ) ที่เติบโตอยู่ใต้ดิน มักจะเต็บโตอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่ร่มเงา มีการค้นพบทรัฟเฟิลตั้งแต่ 3,000 ปีก่อนคริสตกาลตั้งแต่ยุคบาบิโลเนีย ทรัฟเฟิลมีความหลากหลายของรสชาติ และกลิ่นอย่างไม่น่าเชื่อ คล้ายคลึงกับไวน์ที่จะมีรสชาติแตกต่างกันออกไปตามสภาพดิน สภาพอากาศ โดยทรัฟเฟิลเป็นพืชที่ยากจะทำฟาร์ม หรือผลิตเชิงพาณิชน์อย่างมาก จึงยังมีผู้ผลิตรายย่อยที่ใช้วิธีดั่งเดิมในการออกหาและขุดเห็นทรัฟเฟิลในป่า พร้อมกับหมูหรือสุนัขดมกลิ่นคู่ใจ

ชนิดของทรัฟเฟิลสามารถแบ่งได้คร่าวๆ ดังนี้ครับ

  • French Périgord: ทรัฟเฟิลสีดำ ถูกขนานนามว่า ‘Black Diamond’ มีรสชาติของถั่วและกลิ่นหอมดินครับ
  • Italian Black Winter*: เต็มไปด้วยกลิ่นของโกโก้ พริกไทย และดินเปียกๆ
  • Italian Black Summer*: รสจะอ่อนๆ คล้ายๆ เห็ดพอร์ชินี
  • Australian Black Winter*: คล้ายๆ กับ French Périgord
  • Italian Black Burgundy: รสเข้มข้น ออกกลิ่นเฮเซลนัทชัดเจน
  • White Italian: ทรัฟเฟิลหนึ่งเดียวที่มีสีขาวนวล มีราคาต่อกรัมแพงที่สุด จะเสิร์ฟดิบเสมอ รสชาติหลักจะมีความ Earthy หอมขึ้นจมูก มีกลิ่นที่ซับซ้อนของเครื่องเทศ และดอกไม้

*Winter ทรัฟเฟิลจะมีรสชาติเข้มข้น กลิ่นออกชัด มากกว่า Summer ทรัฟเฟิล ที่จะนิยมนำไปปรุงหรือประกอบอาหารมากกว่าครับ

มาจับคู่ไวน์กับทรัฟเฟิลกันเถอะ!

สเต็ปแรกคือเราจะต้องรู้โปรไฟล์รสชาติของทรัฟเฟิลก่อน จากนั้นก็มาเลือกรสหรือกลิ่นที่เราอยากจะไฮไลท์ในทรัฟเฟิล ซึ่งสามารถทำให้โดดเด่นออกมาได้ด้วยการเลือกไวน์ที่ถูกต้องครับ!

รสชาติเห็ด x Barolo

หากอยากดึงรสชาติละมุนละไมของเห็ดจากทรัฟเฟิล จับคู่กับไวน์ Barolo เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วครับ เพราะ tannin จากองุ่น  Nebbiolo จะช่วยตัดความเลี่ยนของทรัฟเฟิลได้เป็นอย่างดี ยิ่งทานคู่กับพาสต้าสไตล์อิตาเลี่ยน ยิ่งเป็นคอมบิเนชั่นสุดคลาสสิคที่เข้ากันสุดๆ เลยครับ!

รสดิน x red Burgundy

ทรัฟเฟิลที่มีรสเข้มอย่าง Périgord หรือทรัฟเฟิลขาว หากจับคู่กับไวน์ที่มีความฟรุ๊ตตี้เกินไป กลิ่นหอมดินก็อาจจะถูกกลบไปหมด ซึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุดคือเรด Burgundy จาก Pinot noir ชั้นเยี่ยม ที่ไม่ได้มีโน้ตที่โดดกลบกลิ่นทรัฟเฟิลหมด แต่ก็มีโน้ตที่ซับซ้อน ดึงกลิ่น earthy ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งหากเป็นไปได้ ให้ลงทุนเลือกไวน์  Grand Cru จาก Côte de Nuits ไปเลย จะเข้าทางที่สุดเลยครับ!

รสสัมผัสน้ำผึ้ง x Marsanne

ส่วนมากจะหาเจอในทรัฟเฟิลขาว โดยจะไม่ได้เป็นรสหวานขึ้นมา แต่เป็นกลิ่นหอมดอกไม้ ผสมสมุนไพร ให้ความรู้สึกเหมือนน้ำผึ้ง ทางเลือกที่ดีที่สุดคือทานคู่กับไวน์ขาว Marsanne ที่อุดมไปด้วยโน้ตของแพร์อบน้ำผึ้ง แอปริคอต อาเคเชีย และเครื่องเทศต่างๆ ซึ่งจะยิ่งทำให้รสชาติของทรัฟเฟิลหรูหรามีระดับขึ้นไปอีกครับ!

รสกระเทียม x Syrah

บางครั้งทรัฟเฟิลขาวจะมีกลิ่นฉุนของกระเทียม หากไวน์รสอ่อนไปก็จะโดนกลบหมด จึงต้องจับคู่กับไวน์ที่มีความจัดจ้านหน่อยอย่าง Syrah หรือ Shiraz เกรดพรีเมี่ยม โดยเฉพาะ Syrah จากเมือง côte-rôtie ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ที่ทานคู่กับกลิ่นกระเทียมแล้วอร่อยล้ำ หรูหรามีระดับไปอีกครับ!

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ