fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

Rosso di Montalcino สูสี Brunello แต่ถูกกว่าเกินครึ่ง!

July 8, 2021

จากบทความที่แล้ว ผมได้พูดถึง Brunello สุดยอดไวน์แห่ง Tuscany ไปแล้ว ก็ปฎิเสธไม่ได้เลยครับว่าเป็นไวน์พรีเมี่ยมที่ราคาตั้งต้นค่อนข้างสูงจนคอไวน์หลายๆ คนต้องคิดหนัก… แต่สำหรับใครที่อยากลอง Brunello แต่เงินในกระเป๋าไม่ค่อยเป็นใจ ก็อย่างเพิ่งท้อนะครับ! เพราะวันนี้ำไวน์แมนจะมาพูดถึง Rosso di Montalcino ที่เปรียบกับ ‘น้องสาวคนเล็ก’ ของ Brunello ที่สดใส ฟรุ๊ตตี้กว่า แต่ราคาถูกกว่าเกินครึ่ง แถมในช่วงไม่กี่ปีนี้ ยังมีผู้ผลิตที่ทำ Rosso ออกมาได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ! จนไวน์แมนต้องมาพูดถึงเลยครับ!

 

ไวน์แนะนำ

โดยจุดเด่นของ Rosso di Montalcino คือความที่เป็น young wine มีโน้ตสดใส ฟรุ๊ตตี้นำ แต่เต็มไปด้วยบาลานซ์ แทนนินนุ่มละมุน ไม่หนัก แต่ในมือผู้ผลิตดังอย่าง Argiano หรือ Poggio Antico ไวน์ Rosso di Montalcino สามารถมีโน้ตฟรุ๊ตตี้ เบอร์รี่ป่า พร้อม acidity ที่ลงตัว และกลิ่นอายของเอิร์ธตี้โน้ตเบาๆ 

Brunello di Montalcino VS Rosso di Montalcino

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าไวน์ 2 พี่น้องนี้เหมือน และต่างกันอย่างไร โดยความเหมือนคือทั้งคู่มาจากเมือง Montalcino วินยาร์ดที่ผลิต Brunello มักจะผลิต Rosso พ่วงมาด้วย ทำจากองุ่น Sangiovese สายพันธุ์พิเศษ 100% เหมือนกันอีกด้วย
แต่ความแตกต่างของสองพี่น้องจะอยู่ที่การเอจจิ้ง Brunello di Montalcino ต้องเอจจิ้งขั้นต่ำต้องเอจในถังโอ๊คใหม่ 2 ปี และเอจในขวด 6 เดือน ส่วน Rosso di Montalcino จะเอจจิ้ง 1 ปีขึ้นไปเท่านั้น นอกจากนั้นส่วนมากจะมาจากวินยาร์ดรองของ Montalcino ที่ปลูกองุ่นที่อายุน้อยกว่าวินยาร์ดของ Brunello นั่นเองครับ

Rosso di Montalcino กลับมาสู่สปอตไลท์แล้ว!

สิ่งที่อยากให้ทุกคนเข้าใจก่อนคือจุดประสงค์แรกของ Rosso di Montalcino คือเพื่อพัฒนาคุณภาพของ Brunello หากผลผลิตไม่ผ่านมาตรฐาน ก็จะถูกนำไปใช้กับ Rosso จึงทำให้ไวน์ Brunello คงความเข้มข้น ซับซ้อน จนประมาณปี 1980 เกิดกระแสที่คนทั่วโลกหลงรัก Brunello ในขณะเดียวกัน Rosso จะถูกมองว่าเป็นไวน์เบาๆ acidity สูงๆ  

แต่ช่วง 5-10 ปีนี้เทรนด์เริ่มเปลี่ยนครับ อาจเพราะความจริงแล้ว Rosso เป็นไวน์ที่นำรายได้สม่ำเสมอเข้ามาสู่ตัววินยาร์ด และคอไวน์ก็เริ่มพัฒนารสนิยมการดื่มที่แตกต่างไป ไวน์ที่รสชาติสดใส ดื่มง่าย เป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่คอไวน์รุ่นใหม่ ไปจนถึงเป็นไวน์ที่ให้ผลผลิตเสมอต้นเสมอปลายมากกว่า Brunello ที่หากวินเทจไหนอากาศไม่เป็นใจ ก็จะผลิตไวน์ออกมาได้น้อยมากๆ ผู้ผลิตดังๆ หลายเจ้าจึงเริ่มหันมาพัฒนา Rosso di Montalcino โดยการแยกพื้นที่ปลูกออกจากกัน เช่น 60% สำหรับ Brunello ส่วนอีก 40% สำหรับ Rosso ซึ่งต่างก็ได้รับการดูแลอย่างดีไม่แพ้ และทำการนำองุ่นไปแช่กับผิวองุ่นเพื่อเพิ่มความเข้มข้น หนักแน่นของรสชาติของไวน์มากขึ้น

การหา Rosso di Montalcino ที่ดี

ฉะนั้นการตามหา Rosso di Montalcino ที่ดี จึงเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก เพราะบางวินยาร์ดดังที่ขึ้นชื่อเรื่อง Brunello แบบสุดๆ แต่ Rosso อาจน่าผิดหวังแบบสุดๆ ก็เป็นได้ครับ เพราะองุ่นดีๆ ตกไปอยู่ใน Brunello เสียหมด ฉะนั้นหากคุณเจอ Rosso di Montalcino คุณภาพดีเยี่ยม อย่าปล่อยให้หลุดมือไปโดยเด็ดขาดนะครับ เพราะไม่ได้หาได้ง่ายๆ 

นอกจากนั้นวินเทจก็สำคัญมากๆ สำหรับ Rosso โดยปีที่อากาศไม่เป็นใจสำหรับ Brunello มักจะเป็นปีที่ดีสำหรับ Rosso เพราะองุ่นส่วนมากที่จะถูกใช้กับ Brunello กลายเป็นถูกนำมาใช้กับ Rosso นอกจากนั้นหากวินเทจไหนระบุว่าเป็นวินเทจที่มีอากาศร้อนเป็นพิเศษ Rosso di Montalcino มักจะออกมาดี เพราะไวน์จะมีความบริษัทของโน้ตฟรุ๊ตตี้มากกว่า 

โดยผู้ผลิตที่ขึ้นชื่อเรื่อง Rosso di Montalcino ที่ไวน์แมนรู้จัก ณ ตอนนี้ ก็จะมี Argiano สุดคลาสสิก ที่ความจริงก็ขึ้นชื่อเรื่อง Brunello เหมือนกัน แต่ก็เป็นเจ้าของ Rosso ที่แสนสดชื่น แต่ก็มีเซอร์ไพรซิ่งโน้ตที่ออกความเอิร์ธตี้อยู่เหมือนกัน นอกจากนั้นยังมี Poggio Antico ที่ไวน์ทุกตัวถูกผลิตจากองุ่นที่มาจากวินยาร์ดเดียวกันหมด ได้ Rosso di Montalcino รสเข้มข้นเป็นพิเศษ โน้ตแบล็คฟรุ๊ตชัดเจน หรือใครอยากได้ไวน์ Rosso di Montalcino ที่รสชาติตรงไปตรงมา แพร์ริ่งกับอาหารง่ายดาย ไวน์แมนจะแนะนำ Tenuta di Sesta ผู้ผลิตไวน์อิตาเลี่ยนรายใหญ่ที่สามารถรักษามาตรฐานไวน์ขอวตนเองได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ ครับ

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ