fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

8 คำอธิบายไวน์ ที่ทำให้คุณดูโปร

June 4, 2021

ผมขอบอกก่อนนะครับว่า ผมเขียนบทความนี้ไม่ได้เพื่อจะบอกว่าสิ่งไหนควรพูด สิ่งไหนพูดไม่ได้ระหว่างดื่มไวน์นะครับ ฉะนั้นไม่ต้องเกร็ง หรือกลัวว่าใครจะหาว่าคุณ ‘ไม่โปร’ นะครับ เพราะสุดท้ายเราต่างก็ดื่มไวน์เพราะอยากเอ็นจอย ดื่มด่ำไปกับไวน์และโมเม็นท์พิเศษต่างๆ แต่หากใครอยากจะดูโปรขณะดื่มไวน์ นี่คือสิ่งที่คุณสามารถพูดได้ เปลี่ยนนักดื่มมือใหม่ เป็นนักดื่มสุดโปรได้ในทันทีครับ!

 

ไวน์แนะนำ

#1 ไวน์ปิด ไวน์เปิด (open / closed)

สเต็ปแรกก่อนที่คุณจะดื่มไวน์ อย่างแรกที่ต้องทำคือการดมกลิ่น หากดมไวน์แล้วไม่ได้กลิ่นอะไรเลย นั่นแสดงว่าไวน์ยัง ‘ปิด (closed)’ คุณอาจจะพูดได้ว่า ‘‘ไวน์ยังปิดอยู่เลยนะครับ’ ให้ swirl ไวน์เล็กน้อยเพื่อให้อากาศเข้าไปในไวน์ หรือดีแคนท์ไวน์ให้นานขึ้น ก่อนที่จะดมกลิ่น ‘อืม! ไวน์เปิดแล้ว’ และจึงค่อยดื่มด่ำไวน์อย่างแท้จริง ไวน์ที่ปิด ไม่ได้แปลว่าแค่ไม่มีกลิ่นอย่างเดียวครับ แต่ครอบคลุมรสสัมผัส (texture) และ การจบ (finish) ของไวน์ด้วยครับ ถ้าไวน์มีรสสัมผัสเจือจางหรือไม่มี finish ก็เรียกว่าเป็นไวน์ที่ “ปิด”ได้ครับ ไวน์ที่ปิดอาจเกิดจากการไม่ได้เปิดขวดไว้นานพอก่อนดื่ม หรือเป็นไวน์ที่อายุยังน้อยไป ไม่ได้ทำการเอจจิ้งนานพอครับ

#2 ไวน์ developed /mature หรือ “มีความพัฒนา”

สื่อถึงความแก่ของไวน์ครับ ไวน์ที่ได้มีการเอกนาน (10+ ปี) จะได้พัฒนากลิ่นแปลกๆนอกเหนือจากกลิ่นผลไม้ (secondary and tertiary aromas) นอกจากนี้ เเทนนินของไวน์คุณภาพดีที่ได้ผ่านการเอจจิ่งนาน จะเปลี่ยนจากฝาดแบบหยาบๆเป็นฝาดแบบนุ่มนวล สุดแสนจะอร่อย ซึ่งถ้าไวน์ได้พัฒนาถึงขั้นนี้แล้วจะถือว่ามี “resolved tannins” ครับ

#3 ไวน์ “structured” (มีโครงสร้าง)

โครงสร้างจากไวน์มาจาก ความสัมพันธ์ของ tannin (ความฝาด) acidity (ความเปรี้ยว) และองค์ประกอบอื่นๆอย่างเช่นระดับแอลกอฮอล์ครับ ซึ่ง concept ของ structure อธิบายยากครับ ถ้าดมไวน์ไปแล้วหอมแต่พอดื่มแล้วรู้สึกจืดจางไม่น่าจดจำ อันนี้ถือว่าไวน์ไม่มี โครงสร้างครับ แต่ในทางกลับกันถ้าดื่มแล้วรู้สึกไวน์มีความสมดุลย์ มีน้ำหนัก ถือว่าเป็นไวน์ที่มีโครงสร้างครับ

ไวน์แนะนำ

#4 “สดชื่น / สดใส“(refreshing)

หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าความเปรี้ยวในวายไม่ดี แต่จริงๆแล้วเป็นองค์ประกอบสำคัญของวายดีทุกตัวครับ ทำให้ไวน์มีความเฉียบคม สดใส สดชื่น ซึ่งคุณสมบัติพวกนี้จะหาได้ในไวน์ของเขตหนาวหน่อยครับ (ยิ่งอากาศหนาว องุ่นสุกช้า ไวน์จะยิ่งมี acidity สูงครับ)

#5 ‘อืม น่าสนใจ’ (Um, that is interesting)

สำหรับการดื่มไวน์ การสามารถบอกรสชาติ และโน้ตในไวน์อย่างรวดเร็วไม่ได้ทำให้คุณดูโปร ดูเซียนกว่าคนอื่นนะครับ เพราะอย่างแรกที่จะต้องเข้าใจเกี่ยวกับไวน์ โดยเฉพาะกรณีไวน์เกรดพรีเมี่ยมที่ผ่านการเอจจิ้งมาอย่างเหมาะสม รสชาติจะซับซ้อน และอาจไม่สามารถรับรู้ทุกโน้ตได้เมื่อดื่มเพียงอึกเดียว แต่ไวน์จะค่อยๆ เผยรสชาติ โน้ตต่างๆ ออกมาในภายหลัง ฉะนั้นหากคุณดื่มไวน์ในอึกแรกแล้วยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นโน้ตอะไร อย่าเพิ่งด่วนสรุปครับ ลองดื่มไปเรื่อยๆ ก่อน รอให้ไวน์เผยรสชาติออกมาให้ชัดเจนก่อนถึงค่อยพูดออกมาว่าไวน์นี้เป็นอย่างไร แต่หากมีใครถามคุณ คำตอบที่คุณพูดได้ก็คือ ‘รสชาติน่ามันน่าสนใจมาก’

เพราะเชื่อผมเถอะครับ คุณไม่อยากเป็นคนที่พูดอธิบายโน้ตไวน์อันซับซ้อนเป็น 10 โน้ตในอึกแรก ขณะที่คนอื่นๆ ข้างๆ คุณแอบคิดว่าคุณนี่ช่างขี้โม้เหลือเกิน!

#6 ฟรุ๊ตตี้ VS เอิร์ธตี้

ก่อนที่จะลงลึกว่าไวน์มีโน้ตนู้นนี้นั้น ลองพูดอะไรกว้างๆ ก่อนแล้วจึงค่อยพูดถึงโน้ตแต่ละตัว ซึ่ง category หลักๆ ที่ใช้อธิบายโน๊ตส่วนใหญ่ของไวน์จะแบ่งได้เป็นสองสามอย่างครับคือ fruity เเละ earthy / savoury ครับ เช่นบอกก่อนว่า ‘ไวน์ตัวนี้ออก “ฟรุ๊ตตี้” หรือ “fruit-forward” นะครับ ก่อนที่จะค่อยระบุว่าเป็นผลไม้อะไร เบอร์รี่ พลัม เรดฟรุ๊ต แบล็คฟรุ๊ต หรือเป็นผลไม้เขตร้อน แต่ถ้าเป็นไวน์ที่มีกลิ่นอื่นๆที่ไม่ใช่กลิ่นผลไม้ ส่วนมากกลิ่นพวกนี้จะตกอยู่ใน category ของ “earthy” หรือ “savoury” ซึ่งครอบคลุมพวกกลิ่น ดินใบไม้ หินและเห็ดเป็นต้น หรืออาจจะใช้คำว่า “herbacious” อธิบายกลิ่นเครื่องเทศหรือสมุนไพรครับ

#7 อธิบายไวน์ที่แอลกอฮอล์เยอะว่า ‘ร้อน’ (hot)

ส่วนหากอยากอธิบายแอลกอฮอล์ที่เยอะในไวน์ แทนที่จะใช้คำว่า เผ็ด เข้มข้น รุนแรง ให้บอกว่า ‘แอลกอฮอล์เยอะนะครับไวน์ตัวนี้ ไวน์ร้อนขึ้นมาเลย’ สื่อถึงความร้อนอุ่นๆ ในลำคอ สำหรับไวน์บางชนิดที่แอลกอฮอล์สูงอย่าง Shiraz บางตัว หรือพอร์ตไวน์ (ไวน์หวานผสมบรั่นดี)

#8 พูดถึงตอนจบของไวน์ (finish)

ตอนจบ หรือ ‘finish’ ของไวน์เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่คอพูดถึงนะครับ finish คือรสชาติที่ค้างอยู่ในปากหลังจากที่กลืนไวน์ไปแล้ว ทำให้ไวน์มีความน่าจดจำ ยิ่งไวน์จบยาวยิ่งดีครับ แค่เราบอกว่า ‘ตอนจบลากยาวมากๆ’ หรือ ‘ไวน์จบสั้นไม่น่าจดจำ’ อะไรประมาณนี้ก็ดูว่าคุณรู้เรื่องแล้วนะครับ

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ