Vintage (วินเทจไวน์) คืออะไร? สำคัญขนาดนั้นเลยหรอ?
August 18, 2020
Vintage (วินเทจ) เเปลง่ายๆเลยก็คือ ปีเก็บเกี่ยวขององุ่นทั้งหมดหรือส่วนใหญ่ที่ถูกนำมาทำไวน์ คอไวน์ทั้วไปจะถือวินเทจเป็นสิ่งสำคัญมากในการเลือกไวน์ อย่างเมื่อมีไวน์ให้เลือก 2 วินเทจ เราก็จะมักเสิร์ชหาเเทบตายว่าอันไหนดีกว่า อันได้คะเเนนมากว่ากัน เพราะไม่อยากเลือกพลาด วินเทจนั้นก็ส่งผลต่อราคาไวน์มาก อย่างเช่น Bordeaux 1982 หรือ 2000 ราคาอาจสูงกว่าไวน์ปกติถึง 10 เท่า! เเต่ทำไม vintage ถึงสำคัญละ? เเล้ว..สำคัญขนาดนั้นจริงๆหรือเปล่า? คำตอบจากไวน์แมนคือ…วินเทจนั้นสำคัญในระดับหนึ่ง แต่ในสถานะการณ์ส่วนใหญ่อาจไม่สำคัญอย่างที่คุณคิด มาดูกันครับว่าทำไม?
ไวน์แนะนำ
ทำไมไวน์ต้องมี vintage บนฉลาก?
วินเทจมีผลต่อรสชาติและคุณภาพ เพราะสภาพอากาศในเเต่ละปีนั้นต่างกัน ถึงแม้เดี๋ยวนี้จะมีเทคนิคการทำไวน์และการปลูกองุ่นที่ทันสมัย ทำให้คุณภาพของไวน์ทุกปีมีความสม่ำเสมอกัน เเต่ความแปรปรวนของสภาพอากาศในภูมิภาคต่างๆก็ยังสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพขององุ่นที่ปลูกได้อยู่ดี อย่างปีที่อากาศอุ่น วินเทจที่ได้ก็มีกลิ่นอายของผลไม้สุกมากกว่าปีที่อากาศเย็น หรือปีที่สภาพอากาศไม่เป็นใจอาจทำให้ไวน์ปีนั้นเสียไปเลยก็ได้ ในอดีตการลิสต์ vintage เป็นเเค่วิธีคร่าวๆที่ใช้ในการแจ้งเตือนลูกค้าว่าไวน์ตัวไหนเเย่ ตัวไหนพอดื่มได้
Vintage สำคัญขนาดนั้นเลยหรอ?
มีไวน์ vintage อยู่หลายตัว ไม่ว่าจะเป็น Bordeaux ปี 1982, 1989, 2000, 2005, 2009, 2010, 2015 เเละ 2016 ปีเหล่านี้เป็นช่วงที่สภาพอากาศไร้ที่ติ องุ่นสุกเเบบเพอร์เฟ็กต์ ไวน์ที่ได้บ่งบอกถึงคุณลักษณ์ของ terroir ได้อย่างเว่อร์วัง วินเทจพวกนี้เลยถือเป็นวินเทจสำคัญที่น่าสะสมเเละลงทุน เเละถ้าหากคุณมีจุดประสงค์จะหาไวน์ขั้นเทพเก็บ การรู้วินเทจดีๆของเเต่ละพื้นที่อย่างลึกซึ้งก็สำคัญมาก
เเต่สำหรับคนทั่วไปเเละวินเทจปกติ (พวกปีส่วนใหญ่) ที่เอาไว้ดื่มชิลๆเเบบ everyday drinking ได้ ผมว่าอย่าไปเครียดกับมันมากนัก เเละนี่คือเหตุผลว่าทำไมครับ..
อย่างเเรกเลยคือ ตอนนี้ไม่เหมือนในสมัยก่อนที่ผู้ผลิตไวน์อยู่ตามเวรตามกรรมเเละยอมรับสภาพภูมิอากาศที่เจอ หลายทศวรรษที่ผ่านมา เทคโนโลยีในการปลูกองุ่นเเละผลิตไวน์ได้พัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมาก ถึงเเม้สภาพอากาศจะเลวร้ายเเค่ไหน ผู้ผลิตบางเจ้าก็ยังทำไวน์ออกมาให้อร่อยได้ ถึงเเม้สภาพอากาศจะสำคัญ เเต่ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีผลกระทบต่อไวน์มากเท่ากับในอดีตเเล้ว ไวน์เเมนไม่ได้กำลังจะบอกว่า ไวน์จะออกมามีรสชาติเหมือนกันเป๊ะๆทุกปีนะครับ เเน่นอนว่าไม่เหมือนเเน่นอน แต่ด้วยเทคโนโลยีในตอนนี้เเล้วความแตกต่างส่วนใหญ่มักจะเป็นคาเเร็คเตอร์ของไวน์ซะมากกว่าเเทนที่จะเป็นเรื่องคุณภาพ อย่างเช่น ปีที่อากาศร้อน ไวน์ก็จะมีความฟรุ๊ตตี้เเละมีความเป็นเเยมมากกว่า ส่วนปีที่อากาศเย็นๆ body ของไวน์จะเบา เเต่มีรสชาติเข้ม ซับซ้อนเเละ elegant ใครจะบอกว่าอันไหนดีหรือไม่ดีละ? สำหรับไวน์เเมนเเล้ว อร่อยทั้งคู่เเหละครับ ไวน์อร่อยไม่ได้มีรสชาติเดียวนี่น่า
สอง การให้คะเเนนวินเทจต่างๆโดยสื่อมักถูกให้โดยการชิมครั้งเเรก1 ปีหลังจากการเก็บเกี่ยวเท่านั้น จริงๆเเล้ว ไวน์นั้นมีการเปลี่ยนเเปลงตลอด มีหลายเคสที่ไวน์มีรสชาติอร่อยเเค่ตอนออกมาใหม่ๆ พอเอจเท่านั้นเเหละ รู้เรื่องเลยว่ารสชาติไม่ไหว ในขณะเดียวไวน์ใหม่ๆบางตัวรสชาติไม่เอาไหน เเต่พอเเล้วถึงกับต้องร้องว้าว เเสดงออกให้เห็นเลยว่า ความคิดตื้นๆบางอย่างนั้นไม่สามารถใช้กับวินเทจได้ เพราะเขาเปลี่ยนเเปลงอยู่ตลอดเวลา