fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

เข้าใจตอนจบของไวน์

June 29, 2021

ความน่าตื่นเต้นของไวน์ ไม่ได้อยู่ที่ตอนลิ้มรส กลิ้งเกลือกไปตามลิ้นและต่อมรับรสไปจนถึงตอนดื่มกลืนเท่านั้น แต่รสชาติจะสามารถค้างอยู่ในปาก เรียกว่าตอนจบของไวน์ หรือ Finish ที่สามารถลากยาวอยู่หลายวิ เรียกว่า ‘aftertaste’ ทิ้งให้คุณอินกับไวน์ไปได้แบบยาวๆ เลยครับ เรียกว่าเป็นอีกแง่มุมของไวน์ที่น่าสนใจมากๆ ครับ

 

ไวน์แนะนำ

ลักษณะของตอนจบไวน์

โดยเฉลี่ยแล้วไวน์จะมีรสชาติทิ้งท้ายตอนจบอยู่เล็กน้อย หลายคนจึงเรียกการจบของไวน์ว่า ความยาว (length) ของไวน์ จะสั้นหรือยาวก็ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย แต่ส่วนมากแล้วไวน์ที่มีตอนจบยาว (Long-finish) จะเจอในไวน์ราคาแพง หรูหรา ขณะที่ไวน์จบสั้น เป็น everyday wine จับคู่กับอาหารง่าย ดื่มลื่นคอ
จบสั้น (ไม่เกิน 10 วินาที) : ไวน์ขาว / ไวน์แดงสไตล์ table wine
จบกลาง (20-30 วินาที) : ไวน์แดงส่วนใหญ่ mid-full bodied ไปจนถึงไวน์ขาวโอ๊คเอจ สปาร์คกลิ้งไวน์ และไวน์หวานทั่วไป
จบยาว (45 วินาที- 1 นาที) : ไวน์แดงที่เอจจิ้งยาวนานจากองุ่น full-bodied เช่นบอร์โดซ์เบลนด์, tempranillo จาก Rioja หรือจะเป็นไวน์หวาน Port Wine จากโปรตุเกส หรือ วินเทจแชมเปญ

เกร็ดความรู้ : finish ของไวน์มีหน่วยวัดด้วยนะครับ! เรียกว่าเป็นหน่วย ‘Caudalie’ แต่สำหรับไวน์ทั่วไปจะไม่ค่อยใช้หน่วยนี้กันหรอกครับ จะต้องเป็นไวน์ขั้นเทพจริงๆ หรือเป็นการทดลองทางวิทยาศาสตร์ไปเลยครับ

วิธีรับรู้ตอนจบของไวน์

ไม่ว่าไวน์จะดีขนาดไหน จบยาวเท่าไหร่ แต่หากไม่รู้วิธีดื่มด่ำตอนจบของไวน์อย่างถูกวิธี คุณก็จะไม่ได้รับรู้ความสุดยอดของตอนจบของไวน์ซักที ฉะนั้นวิธีการรับรู้ตอนจบของไวน์จึงเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ ครับ ซึ่งทางศัพท์เทคนิคเขาเรียกว่า ‘Retronasal breathing’ ซึ่งเป็นการรับรู้รส และกลิ่นของไวน์ภายในปากผ่านการหายใจ ซึ่งมีวิธีการทำง่ายๆ ดังนี้ครับ

  • จิบไวน์ตามปกติ แต่ค้างไว้อยู่ในปากซักพัก ก่อนจะกลืนไวน์ลงคอ
  • ยังไม่ต้องเปิดปากนะครับ และค่อยๆ หายใจออกช้าๆ 
  • หากไวน์มีตอนจบยาว คุณจะยังได้กลิ่น และรสสัมผัสของไวน์ได้ แต่หากไวน์หายไปทันทีที่คุณหายใจออก แสดงว่าคุณเจอไวน์ที่มีตอนจบสั้นนั่นเองครับ

เกร็ดความรู้ : หากดูเซียนไวน์ตอนชิมไวน์ในงานต่างๆ อาจเห็นพวกเขาเหล่านั้นใช้นาฬิกาจับระยะความยาวของไวน์แต่ละตัวเลยครับ

เหตุผลที่ไวน์มีตอนจบยาว

โดยตัวการที่ส่งผลให้ตอนจบของไวน์นาน ไม่ได้ระบุได้ชัดเจน แต่ประกอบขึ้นด้วยหลากหลายปัจจัย
tannin : ทำให้ไวน์แดงมีตอนจบที่ยาว ทิ้งรสสัมผัสออกฝาดๆ ของไวน์ไว้ในปากผู้ดื่ม
aromatic molecules : เป็นโมเลกุลของกลิ่นในไวน์ที่เข้มข้นจนสามารถติดอยู่ในปาก
pectins และ polyphenol : โมเลกุลย่อยของกรดที่มักจะมีอยู่เยอะบริเวณเปลือกองุ่น จะทิ้งรสชาติสดชื่น ฟรุ๊ตตี้ต่างๆ ไว้ได้ครับ

ตอนจบ สามารถทิ้งอะไรให้คุณได้บ้าง?

สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกันครับ คือเป็นกลุ่มไวน์ที่มีตอนจบ ได้แก่จบแบบนุ่มละมุน / จบแบบเครื่องเทศ และสุดท้ายคือจบแบบขม

– จบแบบนุ่มละมุน (smooth finish)

เป็นลักษณะตอนจบที่เห็นได้บ่อยที่สุด และเป็นที่ต้องการที่สุด แต่ก็มีความกำกวมที่สุดครับ โดยหากเจาะไปให้ลึกขึ้นตอนจบที่นุ่มของไวน์จะถูกแบ่งออกได้ย่อยๆ อีกมากมาย ตั้งแต่แทนนินที่ให้รสสัมผัสนุ่มละมุน ไปจนถึงกลิ่นโอ๊ค บางครั้งจะออกวานิลลา หรือควันไฟ ซึ่งมักจะเจอในไวน์แดงเอจจิ้งในถังโอ๊คนานๆ หน่อยครับ

นอกจากนั้นยังมีตอนจบแบบผลไม้แห้ง ไปจนถึงกลิ่นหอมดอกไม้ป่า หรือดอกไวโอเล็ต ที่เป็นตอนจบที่มักจะเจอในไวน์แดงคุณภาพเยี่ยม ที่แม้เอจจิ้งนาน แต่ก็ยังแอบซ่อนกลิ่นอายของผลไม้ และดอกไม้จากองุ่นครับ

– จบแบบเครื่องเทศ (spice finish) 

เช่นเดียวกับอาหารเผ็ดๆ แซ่บๆ ไวน์ที่มีโน้ตเครื่องเทศที่ให้ความรู้สึกเผ็ดร้อนจะมีตอนจบยาววนาน เช่นโน้ตของพริกไทย กานพลู มิ้นต์ หรืออบเชย ซึ่งคนมักสับสนระหว่างไวน์ที่มีตอนจบอัดแน่นไปด้วยเครื่องเทศจัดจ้าน กับไวน์ที่ดื่มแล้วรู้สึกร้อนจากแอลกอฮอล์ที่สูง ซึ่งไม่ใช่แบบเดียวกันครับ ถึงแม้ทั้งคู่อาจทำให้รู้สึกใกล้เคียงกัน แต่หากตั้งใจดมกลิ่นก็จะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างของกลิ่นที่หอมตีจมูก และไม่แสบจมูกครับ

– จบแบบขมๆ (bitter finish)

เป็นตอนจบที่คนดื่มไวน์มือใหม่อาจพยายามหลีกเลี่ยง โดยความขมของไวน์ดีๆ นี้จะไม่ใช่ขมลิ้นชาแบบยานะครับ แต่เป็นความขม ฝาด astringent แบบโกโก้ เอสเพรสโซ่ มัทฉะ ในกรณีของไวน์ขาวอาจจะเป็นไวน์ที่มีตอนจบเป็นโน้ตแร่ธาตุ ชอล์ก ตามแบบฉบับของไวน์ขาว loire valley เป็นต้นครับ

แนะนำไวน์ดีๆ จบยาวๆ

Finca La Emperatriz, Parcela No1 Rioja DOCa 2015
ไวน์สเปน องุ่น Tempranillo เอจนาน 18 เดือน และไม่ผ่านกระบวนการกรอง (fining) ได้ไวน์แดง full-bodied รสชาติจัดหนักจัดเต็ม โดดเด่นด้วยตอนจบลากยาวกลิ่นสมุนไพร ชะเอมเทศ แต่ความสุดยอดของไวน์ตัวนี้คือแม้จะผ่านความเอจจิ้งมายาวนาน แต่ตอนจบของไวน์ยังมีความสดชื่น ฟรุ๊ตตี้อ่อนๆ ทำให้ไม่รู้สึกว่าไวน์หนักจนเกินไปครับ

Le Preare by Cantina di Negrar, Amarone della Valpolicella Classico DOCG 2017
ไวน์สุดคลาสสิคของอิตาลี เป็น full-bodied เรด เบลนด์จากองุ่นพันธุ์ท้องถิ่น เอจจิ้งในถังไม้ 2 ปี และหมักต่อในขวดอีก 6 เดือน เพื่อตอนจบที่นุ่มละมุนดุจกำมะหยี่ โน้ตโกโก้ สมุนไพร และพลัม ขมเล็กๆ ซับซ้อน หนักแน่น

Château Calon-Segur, Le Marquis de Calon Ségur 2015
2nd ไวน์ของ Château Calon-Segur ชื่อดังจากฝั่งซ้ายของบอร์โดซ์ ตั้งอยู่เกือบเหนือสุดของเขต Medoc ณ เมืองเล็กๆ ของ Saint-Estèphe เป็นวินยาร์ดระดับ third growth ไวน์เปิดมาด้วยโน้ตสุดแสนเอิร์ธตี้ กลิ่น Graphite อันเป็นเอกลักษณ์ที่จะออกมาจากบอร์โดซ์เบลนด์ดีๆ เท่านั้น ซึ่งตอนจบแน่นอนว่าลากยาว และแทนที่จะเป็นโน้ตหนักๆ จะมีกลิ่นลงท้ายที่ออกหอมๆ ฟลอรัลหน่อยๆ

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ