เปลี่ยนห้องเก่าๆให้เป็น ‘wine cellar’สุดหรู
October 6, 2020
“ห้องเก็บไวน์” หรือ “Wine Cellar” ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากๆอีกอย่างของนักดื่มไวน์และนักสะสมไวน์ที่จริงจัง คุณอาจจะคิดว่า การมี wine cellar ในบ้านคุณนั้นเป็นอะไรที่ยาก ต้องใช้ที่เยอะเเละค่าก่อสร้างเเพง จริงๆเเล้วก็เเพงอยู่นะครับ เเต่อาจจะไม่ได้เเพงเเละยากเท่าที่คุณคิด ไวน์เเมนเขียนโพสนี้ขึ้นมาเพราะได้ลองหาข้อมูลเอาไว้ทำเอง มีปัจจัยหลายอย่างที่ค่อยดูเเล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอุณหภูมิ เเสง ความชื้นเเละอื่นๆ วัสดุที่ต้องใช้ก็ไม่ได้ถูก เพราะห้องไวน์นั้นต้องมีความสเถียร เเต่สำหรับคนรักไวน์เป็นชีวิตจิตใจนั้นอาจเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าต่อความสุขที่ได้มา ถ้าคุณเป็นคนชอบอวดนิดๆ (เหมือนไวน์เเมน)ครั้งหน้าถ้าเพื่อมาเยี่ยมหรือมาทานข้าวที่บ้าน ห้องนี้จะทำให้คุณดูเท่ขึ้นมาเลย
ไวน์แนะนำ
เราไม่ได้เเนะนำให้คุณไป DIY สร้างเองนะครับ เพราะอาจจะมีสิ่งผิดพลาดหลายอย่างที่เกิดขึ้นได้ โพสนี้เอาไว้อ่านสนุกๆนะครับ เเละสำหรับคนที่คิดจะทำจริงๆ นี่ก็เป็นข้อมูลพื้นฐานดีๆ คุณจะได้คุยกับผู้รับเหมารู้เรื่อง!
ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง
พื้นที่
สิ่งเเรกที่คุณต้องมีก็คือห้องว่างครับ (ยิ่งถ้าบ้านใครมีห้องใต้ดินหรือใต้บันไดนะครับเยี่ยมเลย) จริงๆเเล้วไม่ต้องการพื้นที่ๆใหญ่มากเลยครับ 10 ตารางเมตรก็พอเเล้ว เเต่ต้องเป็นห้องที่มืด ไม่เจอเเสงโดยตรง เเละไม่มีความสั่นสะเทือน ก่อนจะไปถึงสเต็ปการสร้าง เรามาดูกันว่า ปัจจัยที่ห้องเก็บไวน์ต้องมีคืออะไรบ้าง
อุณหภูมิ
ปัจจัยนี้สำคัญมากในการเก็บรักษาไวน์คงคุณภาพเเละมีรสชาติที่อร่อยเหมือนเดิม ปกติเเล้วไวน์จะต้องเก็บในอุหภูมิที่เย็น เเต่เย็นอย่างเดียวไม่พอครับ อุณหภูมิต้องคงที่ด้วย ถ้าอุณหภูมิขึ้นๆลงๆ เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาจะส่งผลไม่ดีต่อไวน์เเน่ครับ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเก็บไวน์คือต้องสร้างสิ่งเเวดล้อมที่มีความสเถียรให้เขา อุณหภูมิที่เหมาะสำหรับห้องเก็บไวน์จะอยู่ที่ 10-15 องศา การเก็บไวน์ในอุณหภูมิที่เย็นกว่าจะทำให้ไวน์อยู่นานเเละพัฒนารสชาติได้น่าอลังการมากกว่า ในทางกลับกันถ้าเก็บไวน์ในอุณหภูมิที่อุ่นกว่า ไวน์ก็จะเกิดปฏิกิริยาเคมีทำให้ไวน์เอจเร็วกว่า
เเสง
ใครมีห้องเก็บของไร้หน้าต่างที่ไม่ได้ใช้ นี่เหมาะสุดๆเลยในการทำเป็น wine cellar เพราะไวน์นั้นไวต่อเเสง หรือถ้าห้องคุณมีหน้าต่างก็ต้องมีม่านกันเเสงให้ดีนะครับ เเละปิดม่านทุกครั้งที่ออกจากห้อง
ความชื้น
ความชื้นนั้นเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งในการเก็บไวน์ ไม่ได้สำคัญเท่าแสงหรืออุณหภูมิ เเต่ก็ยังต้องระวังไว้ครับ เพราะถ้ามีความชื้นน้อยไปก็จะทำให้จุกคอร์กเเห้งเเตก ออกซิเจนเข้าไปในไวน์ได้ เเต่มีทริคคือ ให้วางไวน์ในองศาที่น้ำไวน์โดนจุกคอร์ก วิธีนี้จะทำให้จุกคอร์กได้รับความชื้นจากไวน์ ลดปัญหาจุกคอร์กเเตกได้ ความชื้นที่ได้ควรอยู่ที่ประมาณ 50-80% ห้องเก็บไวน์ส่วนใหญ่จึงมีเครื่องปรับความชื้น
เเรงสั่นสะเทือน
การสั่นสะเทือนมีผลต่อไวน์ยังไง? หนึ่งคือเรื่องของตะกอน โดยปกติเเล้ว เมื่อเอจไวน์สารที่จับตัวเป็นของเเข็งจะจมลงไปข้างล่าง ของเหลวก็จะอยู่ข้างบน เเต่พอมาเจอกับเเรงสั่นสะเทือน สารตะกอนพวกนั้นจะถูกกระจายไปผสมกับไวน์เเทน ทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี ไปเร่งกระบวนการเอจให้เร็วขึ้น รวมถึงทำให้ไวน์เปลี่ยนรสชาติเเละไม่มีกลิ่นหอม เเทนที่จะได้ดื่มไวน์เเบบฟินๆ กลับต้องเททิ้ง ทำลายบรรยากาศการดื่มไวน์ของคุณเเบบสุดๆ
มาเริ่มสร้างห้องเก็บไวน์กัน!
สร้างผนัง
อันดับเเรกในการทำห้องเก็บไวน์คือ คุณวางกรอบห้องหรือการสร้างผนังก่อนครับ ไวน์เเมนเเนะนำให้ใช้ไม้ที่มีขนาด 2×6 มาติดตั้งบนผนัง วัสดุอย่างเช่น อิฐ ปูน หรือกระจกก็ใช้ได้ครับ เเต่ต้องมีช่างมือโปรมาดูเเลให้คำเเนะนำด้วยนะ
ติดวัสดุกันไอน้ำ
เพื่อป้องกันไอน้ำไม่ให้เข้าหรือออกจากห้องเก็บไวน์ ให้คุณแปะผนังด้วยเเผ่นกันไอน้ำที่มีความหนา 6 มิลลิลิตรให้ทั่วห้องข้างใน ในขั้นตอนนี้จะทำให้คุณสามารถควบคุมอุณหภูมิเเละความชื้นให้อยู่ในระดับที่ต้องการได้ง่ายขึ้น
ติดฉนวนกันความร้อน
ทั้งผนังเเละหลังคาต้องมีการติดตั้งฉนวนกันความร้อน โดยเเนะนำให้ใช้ R-19
สำหรับผนังเเละ R-30 สำหรับเพดาน หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ ฉนวนกันความร้อนเเบบโฟม (spray foam insulation) ส่วนปูนคอนกรีตไม่ใช่เป็นฉนวนกันความร้อน สามารถใช้ได้ เเต่จะควบคุมอุณหภูมิยากมากๆ ไม่เเนะนำเท่าไหร่ เเละอย่าลืมเพดานกับพื้นด้วยนะครับ
คลุมผนัง
เมื่อทุกอย่างถูกติดบนผนังเรียบร้อยเเล้ว ให้ทำการคลุมผนังซ้ำอีกทีครับ สามารถใช้ทั้ง drywall, green board (สามารถช่วยเก็บความชุ่มชื้นได้), PVA เเละไม้ เลือกได้ตามสะดวกเลยครับ
ติดตั้งระบบอุณหภูมิหรือ cooling system
มีหลากหลายเเบบ ใครที่ไม่อยากเสียเวลาเเละเงินเยอะ ผมเเนะนำระบบเเบบ self-contained unit เพราะประหยัดงบเเละติดตั้งง่าย ส่วนใครที่คิดจะใช้แอร์ละก็ พักไว้ก่อนนะครับ ไม่เวิร์คเเน่นอน
ประตู
ประตูที่ใช้ในห้องเก็บไวน์นั้นต้องมีการปิดที่มิดชิดครับ เพราะเป็นสิ่งที่ควบคุมเเละเก็บความเย็นไม่ให้ออกนอกห้อง ทำให้ cooling system ทำงานได้มีประสิทธิภาพ เเละไม่เเนะนำให้ใช้ประตูกระจกเท่าไหร่นะครับ
ชั้นวางไวน์ (วัสดุ)
ชั้นวางไวน์สไตล์ที่รู้จักกันดี คือ 1.ชั้นวางเเบบดั้งเดิม ซึ่งทำมาจากไม้ ไม่ว่าจะเป็น
ไม้มะฮอกกานี ไม้เรดวูด เเละไม้ซีดาร์ ซึ่งมีคุณสมบัติทนความชื้นได้ดี ล่วนอีกสไลต์คือ 2.ชั้นวางเเบบสมัยใหม่ ทำจากโลหะ ซึ่งจะให้ความรู้สึกที่หรูหราดูเเพงเเละมีสไตล์ เเต่ละเลือกเเบบไหนขอให้ดูว่าอันไหนตอบสนองความจำเป็นของคุณได้ดีกว่าละกันนะครับ สิ่งที่สำคัญคือ ชั้นวางต้องเป็นเเนวนอน เพราะอาจที่บอกว่า ไวน์ต้องสัมผัสกับจุกคอร์ก ไม่อย่างนั้นจุกคอร์กจะเเห้งเเละเเตก
ชั้นวางไวน์ (ขนาด)
ขนาดช่องเก็บไวน์นั้นก็สำคัญเหมือนกัน เพราะไวน์เเต่ละขวดนั้นมีความกว้างเเละความยาวไม่เหมือนกัน อย่างขวด Burgundy ส่วนใหญ่หรือขวดสไตล์ antique (อย่าง Château Haut-Brion หรือ Château Pavie) จะมีขวดที่อ้วน ถ้าทำช่องเล็กไปจะใส่ไม่พอดี หรืออย่างไวน์บางตัวเช่น Riesling จะมีขวดที่สูงยาวกว่าไวน์อื่นๆ ต้องทำให้ช่องลึกหน่อย ไวน์พวกนี้จะได้ไม่ยื่นออกมาข้างนอกมากเกินไป ไวน์ปกตินั้นจะมีความสูงประมาณ 31 ซม. เเละเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 8 ซม. ฉะนั้นเพื่อความเซฟ ความลึกของช่องไวน์คุณควรอยู่ประมาณ 37 ซม. เเละเผื่อพื้นที่เเนวนอนสำหรับเเต่ละขวดประมาณ 10 ซม.
ติดตั้งหลอดไฟ
ไวน์เเมนเเนะนำให้ใช้หลอด LED หรือ Fluorescent (หลอดฟลูออเรสเซนต์) เพราะว่ามีเเรงดันไฟฟ้าต่ำ เเสงจะได้สว่างเเบบพอดีครับ เลือกสีไฟโทนอุ่นจะทำให้ห้องคุณดูหรูขึ้น
พื้น
พื้นในห้องเก็บไวน์ควรทนกับความชื้นได้ ฉะนั้นให้หลีกเลี่ยงพื้นที่เป็นพรม พื้นที่ใช้ได้มีตั้งเเต่ไม้เนื้อแข็ง กระเบื้อง ไวนิล พื้นหิน พิ้นขัดมัน จนไปถึงพื้นไม้คอร์กเลยครับ