ขวดไวน์ 7 ทรงที่คุณควรรู้จัก
March 16, 2021
หลายคนซื้อไวน์บ่อยๆ จะเห็นว่าขวดไวน์มีความแตกต่างกันออกไป ทั้งสี ดีไซน์ ขนาด โดยไม่ได้ทำขึ้นเพียงเพราะอยากให้ไวน์ของตนออกมาสวยเด่นเท่านั้น แต่ขวดรูปทรงต่างๆ มีประวัติความเป็นมายาวนาน และบ่งบอกถึงเอกลักษณ์เฉพาะของไวน์ในแต่ละพื้นที่ ฉะนั้นวันนี้เรามาพูดถึงดีไซน์ขวดไวน์ดังๆ ทั้งหลายกันเลยครับ!
ไวน์แนะนำ
ไวน์แนะนำ
ขวดไวน์เบอร์กันดี (ฺBurgundy Bottle)
เป็นแม่พิมพ์ขวดไวน์แรกของโลก! ผลิตตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 จุดเด่นคือมีไหล่ขวดลาดเป็นสโลบนุ่มนวล และยังเป็นต้นกำเนินของไซส์มาตรฐานของขวดไวน์ 75CL ไปด้วยเลยครับ ซึ่งออกแบบมาให้พอดีกับปริมาณความจุของปอดมนุษย์พอดีเลยครับ! จึงเป็นงานดีไซน์ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันอย่างมาก ใช้กับไวน์เบอร์กันดีทั้งหมด โดยเฉพาะองุ่น Pinot Noir และ Chardonnay รวมๆ แล้วมักใช้กับไวน์ที่มีความฟรุ๊ตตี้ รสขชาตินุ่มละมุน สดชื่น เช่นไวน์ของ Rhone Valley ไปจนถึงนิวซีแลนด์ครับ
ขวดไวน์บอร์โดซ์ (Bordeaux Bottle)
เป็นลักษณะขวดไวน์ที่นิยมใช้มาตรฐานสากลที่สุดครับ จุดเด่นคือมีไหล่ขวดสูง ด้านข้างขวดขนานกันยาว มีจุดเริ่มต้นมาจากบอร์โดซ์ที่ต้องผลิตไวน์เป็นจำนวนมากๆ จึงต้องการขวดไวน์ที่เรียบง่าย สามารถ mass produce ได้ทีละเยอะๆ แถมยังต้องแตกต่างชัดเจนจากไวน์คู่แข่งอย่างเบอร์กันดีอีกด้วยครับ นอกจากนั้นดีไซน์ไหล่ขวดสูง งุ้มทำมุมชัดเจน มีไว้เพื่อกักเก็บตะกอนที่อาจหลงเหลือในไวน์ที่เอจจิ้งมานานๆ จึงเป็นขวดไวน์ที่นิยมใช้กับไวน์แดง full-bodied ที่สามารถเอจจิ้งนานๆ อย่างบอร์โดซ์เบลนด์ Shiraz และ Cabernet Sauvignon ครับ
สีของขวดจะนิยมใช้สีน้ำตาล หรือเขียวเข้ม เพื่อกันแสง แต่หากเป็นไวน์หวาน หรือไวน์ขาว ที่อยากโชว์สี เช่นไวน์หวาน Sauternes สีเหลืองทอง จะนิยมใช้ขวดใสเพื่อโชว์ความสวยงามของสีครับ!
ขวดไวน์อาลซัส (Alsace Bottle)
เกิดขึ้นหลังจากไวน์บอร์โดซ์ กับขวดไวน์ทรงผอมสูง หรูหรา (เยอรมันจะเรียกว่า ขวดทรงไม้กลอง) ซึ่งตอนนี้กลายเป็นขวดไวน์ที่เห็นปุ๊บก็ต้องนึกถึง Riesling หรือ Gewurtztraminer ซึ่งเป็นไวน์เยอรมัน acidity สูงปรี๊ด หอมสดชื่น เหตุผลเพราะสมัยก่อนเยอรมันนิยมนำเข้า Riesling ผ่านช่องทางแม่น้ำ Rhine River ที่เรียบสงบ แตกต่างจากการขนส่งไวน์ทางทะเลไปประเทศไกลๆ ทั่วไป จึงสามารถใช้ขวดไวน์ทรงสูงที่เปราะบางกว่าขวดเบอร์กันดี หรือบอร์โดซ์ แต่สามารถขนส่งทีเดียวได้หลายๆ ขวด แถมน้ำหนักเบากว่า นั่นเองครับ
ขวดสปาร์คกลิ้งไวน์ (Sparkling Bottle)
ตัวขวดเองจะหนาและหนักกว่าขวดไวน์ทั่วไปเพราะต้องป้องกันแก๊ส และฟองในสปาร์คกลิ้งไวน์ที่อาจมีการขยายตัวและทำให้ขวดแตกได้ ซึ่งมีดีไซน์แบบนี้ได้จากการลองผิดลองถูกหลายครั้งของผู้ผลิตในเขตแชมเปญ เน้นสโลบไหลขวดให้ลาดมากที่สุด แถมก้นขวดถูกออกแบบให้บุ๋มเข้าไป เรียกว่า ‘punt’ เพื่อทำให้ขวดสปาร์คกลิ้งมั่นคงแข็งแรงที่สุด เพราะนอกจากการขนส่งแล้ว ในขั้นตอนการผลิตสปาร์คกลิ้งไวน์จะต้องมีการเอียงขวดเพื่อนำตะกอนออก ฉะนั้นขวดจะต้องเซฟ แตกยากที่สุดครับ
ทางด้านสีของขวด จากเดิมที่นิยมขวดทึบเพื่อกันแสง แต่ตอนนี้ต้องการขายความสวยงาม จึงนิยมใช้ขวดใสเพราะจะได้เห็นสีและฟองสวยงามภายในครับ
ขวดไวน์พอร์ต (Port Wine Bottle)
เป็นขวดเฉพาะสำหรับ Port Wine ไวน์หวาน fortified wine (ผสมบรั่นดี) ของโปรตุเกส โดยจะมีดีไซน์ขวดใกล้เคียงกับขวดไวน์บอร์โดซ์อย่างมาก โดยเฉพาะด้านข้างของขวดที่เก็บจะขนานกันครับ แต่แตกต่างกันชัดเจนบริเวณคอขวด ที่จะมีความเว้าเพิ่มขึ้นมาเพื่อกักเก็บตะกอนไวน์ตอนริน port wine ลงแก้วให้ได้มากที่สุด ด้วยความที่เป็นไวน์แอลกอฮอล์สูง เอจจิ้งนาน หากดื่มทานตะกอนไปมากๆ อาจทำให้ดื่มแล้วมึนเมาได้ครับ
ขวดไวน์โรเซ่จากพรอว็องส์ (Provence Rosé bottle)
เป็นอีกหนึ่งขวดที่มีรูปทรงสนุกๆ เหมือนพินโบวลิ่ง หรือชาวฝรั่งเศสจะเรียกว่า ‘flûte à corset’ หรือคอร์เซ็ต ชุดรัดทรงผู้หญิงนั่นเองครับ ซึ่งก็เหมาะกับไวน์โรเซ่ สีชมพูอ่อน รสชาติอ่อนหวาน หอมกลิ่นกุหลาบจาก Provence มากๆ ครับ แต่ตอนนี้อาจจะหายากหน่อยเพราะเริ่มนิยมใช้ขวดที่ผลิตง่ายกว่าอย่างเบอร์กันดี หรือบอร์โดซ์มากกว่า ฉะนั้นหากเห็นโรเซ่ทรงนี้ ให้รู้เลยครับว่าเป็นผู้ผลิตสุดคลาสสิค เน้นคุณภาพสินค้าครับ
ขวดไอซ์ไวน์ (Ice Wine Bottle)
มักจะใช้กับไวน์หวานราคาแพง หรือไอซ์ไวน์ที่ผลิตได้อย่างจำกัดมากๆ จะเป็นไวน์หวานเน้นกลิ่นหอมซับซ้อนเหมือนน้ำหอม รสชาตินุ่มละมุน หรูหรา ดื่มปิดท้ายคู่กับขนมหวานมัน มักจะรินในแก้วขนาดเล็ก ค่อยๆ จิบทาน ขวดจึงจะต้องเน้นความหรูหรา เล็กลีบสูง ไม่จำเป็นต้องบรรจุไวน์แบบเยอะๆ แต่เน้นความสวยงาม สามารถเก็บกลิ่นหอมได้ครบก็พอครับ