fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

Loire Valley สวรรค์ของคนรักไวน์ขาว

June 15, 2021

หากบอร์โดซ์มี Cabernet Sauvignon เบอร์กันดีมี Pinot Noir ก็คงพูดได้ว่า Loire (ลัวร์) มี Sauvignon Blanc!

 

ไวน์แนะนำ

แคว้น Loire เป็นอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ในวงการไวน์ของฝรั่งเศสประจำภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายเชิงการผลิตไวน์ มีหมดตั้งแต่ไวน์แดง สปาร์คกลิ้ง โรเซ่ แต่ที่ขึ้นชื่อที่สุดก็คงหนีไม่พ้นไวน์ขาว ที่ขึ้นชื่อว่า ‘ดีที่สุดในฝรั่งเศส’ หรืออาจจะทั้งโลกเลยก็ว่าได้ ตั้งแต่ Sauvignon Blanc แอซิดิตี้เฉียบคม จับคู่ได้หลากหลายเมนู ไปจนถึง Sauvignon Blanc ที่ฉีกทุกกฎของ Didier Dagueneau รสชาติเข้มข้น ซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังเป็นบ้านของ Chenin Blanc ทั้งสไตล์ dry ไปจนถึงไวน์หวาน noble rot ที่ได้ชื่อว่ายอดเยี่ยมที่สุดในโลกเช่นกัน 

ฉะนั้นหากคุณคิดว่า Loire ไม่มีอะไรเด่น คิดใหม่นะครับ! เพราะแคว้นนี้คือสวรรค์ของคนรักษ์ไวน์ขาวอย่างแท้จริง

 

Loire จากอดีตจนถึงปัจจุบัน

ชื่อเสียงของลัวร์ เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ครับ เพราะแม้จะเป็นแคว้นผลิตไวน์เก่าแก่ไม่แพ้บอร์โดซ์ และเบอร์กันดี แต่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดัง โจ่งแจ้งชนิดแบบชาโตว์ดังๆ ในแคว้นอื่น จนกระทั้งช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้เอง ที่กลุ่มนักดื่มรุ่นใหม่ และกลุ่มเซียนไวน์ Sommelier ได้ทำให้ไวน์ของ Loire กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง โดยมองเห็นคุณค่าของไวน์ทางฝรั่งเศสตอนเหนือที่มีความซับซ้อน หอมสมุนไพร แร่ธาตุ เครื่องเทศจัดจ้าน แต่ไม่ฟรุ๊ตตี้ รวมไปถึง Loire ยังเป็นดั่งสูตรรวมนวัตกรรมใหม่เชิงเทคนิคการผลิตไวน์ มีการทดลองผลิตไวน์สุดแนวมากมาย แถมยังเป็นโลเคชั่นแรกๆ ที่นำหลักการ Biodynamic หรือการผลิตไวน์ออแกนิคมาใช้ ก่อนเบอร์กันดี หรือ Rhone Valley เสียอีกครับ  

 

จุดเด่นของพื้นที่ Loire

Loire (ลัวร์) เป็นชื่อแม่น้ำที่ยาวที่สุดในฝรั่งเศส ไหลจากกลางประเทศฝรั่งเศสออกสู่ทะเลแอตแลนติก ซึ่งเป็นแม่น้ำขนาดใหญ่ ไหลเอื่อยๆ ซึ่งแม้แต่ละพื้นที่จะแตกต่างกันขนาดไหน ก็จะถูกเชื่อมด้วยแม่น้ำลัวร์นี้หมดครับ ดินจึงเป็นดินตะกอน มักมีความร่วนละเอียดคล้ายชอล์ก รวมถึงเป็นพื้นที่ที่มีอากาศค่อนข้างหนาว 

นี่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่ว่าไวน์จากลัวร์จะเป็นสไตล์ที่แตกต่างกันขนาดไหน แต่จะมีคุณสมบัติร่วมอย่างหนึ่งที่โดดเด่นขึ้นมาเมื่อเทียบกับแคว้นอื่นๆ นั่นก็คือ acidity ที่สดใส สดชื่น คล้ายโน้ตซิตรัส ที่ให้ความฝาดเล็กน้อยที่มีอยู่ทั้งในไวน์ขาว ไวน์แดง โรเซ่ สปาร์คกลิ้ง และไวน์หวานจากแคว้นนี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ไวน์มีความเฉียบคม แถมจับคู่เข้ากับอาหารได้หลากหลายเมนูอย่างมากครับ!

องุ่นหลักของ Loire แน่นอนว่าจะต้องเป็นองุ่นขาว อย่าง Chenin Blanc ซึ่งนิยมปลูกใจกลางของแคว้น อาจพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่พื้นที่ในโลกที่ Specialize ในการปลูก Chenin Blanc  ส่วนทางตะวันออกจะเต็มไปด้วย Sauvignon Blanc ขั้นเทพ ภายใต้ชื่อที่หลายๆ คนอาจเคยผ่านหูผ่านตาอย่าง ‘Sancerre’ หรือ ‘Puilly-Fume’ สำหรับองุ่นแดง ยิ่งเป็นองุ่นที่ถูกกับอากาศค่อนข้างหนาว จึงยิ่งดี ทำให้สามารถปลูก Cabernet Franc, Pinot Noir และ Gamay คุณภาพได้ไม่แพ้องุ่นขาวครับ

 

เขตย่อยที่คุณต้องรู้จักในแคว้น Loire

ref. lindseybalbierz.com/

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นนะครับว่า Loire เป็นหนึ่งในแคว้นผลิตไวน์ที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส สามารถแบ่งบริเวณออกเป็น 3 พื้นที่ใหญ่ (ลัวร์ตะวันออก / กลาง / ตะวันตก) มี Appellation ย่อยทั้งสิ้น 63 พื้นที่ จะให้พูดถึงหมดก็คงไม่ได้นะครับ ฉะนั้นเราจะพูดถึงแค่เขตเด็ดๆ ที่ทำให้คอไวน์ทั้งหลายหลงรักในแคว้นนี้ครับ

 

Sancerre (ซาน-เซีย)

พื้นที่เล็กๆ เลียบแม่น้ำทางตะวันออกของแคว้นลัวร์ เป็นบ้านของ Sauvignon Blanc ที่ว่ากันว่า ‘ดีที่สุดในโลก’ ปลูกอยู่บริเวณเนินเขาที่มีดินหินปูนละเอียดร่วนคล้ายชอล์ก (คล้ายๆ ดินของ Chablis, เบอร์กันดี) โดย Sauvignon Blanc ของที่นี่ไม่เหมือนกับ Sav Blanc ทั่วไปของฝรั่งเศสที่เน้นโน้ตสมุนไพรเหม็นเขียว หรือของนิวซีแลนด์ที่จะเป็นโน้ตฟรุ๊ตตี้ แต่จะเป็นไวน์ขาวที่เต็มไปด้วยโน้ตแร่ธาตุ หินเหล็กไฟ หอมกลิ่นควันอ่อนๆ ตามด้วยซิตรัสสดชื่น โลดโผน ตรงกับความหมายดั้งเดิมของคำว่า ‘Sauvignon’ ที่แปลตรงตัวว่า ‘untamed’ ดิบเถื่อนและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ซึ่งเป็นรสชาติที่ Sauvignon Blanc ชั้นเยี่ยมควรจะเป็น

ซึ่งไวน์ของ Sancerre ส่วนมากจะหมักในถังสแตนเลส และไม่ผ่านกระบวนการ Malolactic fermentation เพื่อรักษา acidity และรสชาติดั้งเดิมขององุ่น

 

Pouilly-Fume (พู-ยี-ฟู-เม)

เป็นเมืองเพื่อนบ้านของ Sancerre และผลิตไวน์ขั้นเทพจาก Sauvignon Blanc เช่นกัน โดยแต่ก่อนหากคุณไม่ใช่เซียนไวน์จริงๆ คุณจะแยกไม่ออกเลยระหว่างไวน์จาก 2 เมืองนี้ครับเพราะมีความคล้ายกันมากๆ แต่ยิ่งมีผู้ผลิตสมัยใหม่เข้ามา ก็ยิ่งทำให้แยกแยะได้ง่ายขึ้น เพราะ Pouilly-Fume เป็นบ้านของวินยาร์ดดัง หัวขบฎอย่าง Didier Dagueneau ที่เริ่มใช้ถังโอ๊คเอจไวน์ Sauvignon Blanc ซึ่งตอนแรกโดนกระแสแอนตี้สุดๆ แต่ต่อมาก็ถึงได้ค้นพบว่าวิธีการของ Didier ทำให้ได้ไวน์คุณภาพเยี่ยม เข้มข้น Full-bodied โน้ตที่ชาวฝรั่งเศสเรียกว่า ‘Pur Sang & Silex’ หรือ ‘เลือดผสมหินเหล็กไฟ’ เรียกได้ว่าเป็นอีกมิติใหม่ของไวน์ขาวไปเลยครับ อันเป็นเทรนด์ทำให้ไวน์จาก Pouilly-Fume ใช้การเอจด้วยโอ๊คเพื่อเพิ่มโครงสร้าง ความเข้มข้นให้กับไวน์ขาวมากขึ้นครับ

 

Savennieres (ซา-เวอ-เนีย)

เมืองที่ตั้งอยู่ ณ ใจกลางแคว้น Loire ที่เป็นพื้นที่เนินเขาที่มาจากดินตะกอนภูเขาไฟที่ทับถมมาตั้งแต่โบราณ เจ้าของหนึ่งใน Chenin Blanc ที่ ‘ดีที่สุดในโลก’ โดยส่วนมาก Chenin Blanc นิยมผลิตเป็นไวน์หวาน หรือ Semi-Sweet แต่ Savennieres เป็นยอดฝีมือด้านการผลิต Chenin Blanc สไตล์ dry ไม่หวาน เน้น acidity เฉียบคมไม่กี่เจ้าในโลก รสเข้มข้น โน้ตแร่ธาตุชัดเจน ผสมผสานกับกลิ่นหอมหวานของควินซ์ คาโมมาย และน้ำผึ้ง

 

Quarts De Chaume (กา-เดอ-โชม)

อยู่ระแวกเดียวกับ Savennieres ขึ้นชื่อเรื่อง Chenin Blanc เช่นกัน แต่จะเป็นสไตล์ Semi-sweet หรือ Fully-sweet ไปเลย และเป็นเมืองที่สามารถผลิตหนึ่งในไวน์หวานที่ยากที่สุด สไตล์ noble rot เพราะวินยาร์ดจะตั้งอยู่เรียบแม่น้ำ ในพื้นที่ที่ความชื้นพอเหมาะ ทำให้ได้ไวน์หวานเข้มข้น acidity แสนลงตัว โน้ตพีช แอปริคอต และแอปเปิ้ล

 

Touraine (ทู-เรน)

เมืองที่ค่อนข้างใหญ่ตอนกลางของแคว้นลัวร์ หากใครอยากดื่มไวน์จาก Loire ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ในราคาสุดคุ้ม ต้องหยุดอยู่ ณ เมืองนี้เลยครับ ซึ่งสามารถผลิตไวน์หลากหลายที่สุด  เพราะมีฤดูร้อนที่ร้อนจัด และฤดูหนาวที่หนาวเย็น  เหมาะกับทั้งไวน์แดงจาก Pinot Noir, Cabernet Franc ไปจนถึงไวน์ขาวจาก Sauvignon Blanc   

 

วินยาร์ดดังของ Loire

Clos De La Coulée De Serrant – หนึ่งในวินยาร์ดที่เก่าแก่ เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ขาวที่สุดใน Loire และที่สำคัญยังเป็นหนึ่งในวินยาร์ดแรกๆ ที่ริเริ่มเทรนด์ไวน์ออแกนิค และ Biodynamic ตั้งแต่ปี 1959 ก่อนจะเผยแพร่ไปสู่วินยาร์ดดังๆ อย่าง Vosne-Romanee ในเบอร์กันดี ไปจนถึง M. Chapoutier แห่ง Rhone  

Pascal Jolivet – อีกหนึ่งวินยาร์ดคลาสสิคแห่ง Loire ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1926 แต่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย นำเสนอทั้งไวน์ขาว ไวน์แดง ตั้งแต่ราคาถูก ไปจนถึงพรีเมี่ยม เจ้าของไวน์ขาว Sancerre ที่ติดโผสุดยอดไวน์ขาวที่ดีที่สุดในโลกจาก Wine Spectator

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ
preloader