หากอยากสัมผัสที่สุดของความหรูหราในไวน์ขาว ให้เลือกดื่มไวน์เยอรมัน และหากอยากลิ้มรสไวน์เยอรมันที่ดีที่สุด! ไม่มีตัวเลือกอื่นที่จะเหมาะสมไปกว่าไวน์ของ Joh. Jos. Prum หรือเรียกย่อๆ ว่า J. J Prum ไวน์จากตระกูล Prum ราคาแห่ง Riesling ชั้นเยี่ยมจาก Mosel มีประสบการณ์ผลิตไวน์มากว่า 400 ปี แม้จะเพิ่งตั้งแบรนด์อย่างเป็นทางการในปี 1911 แต่ก็ได้รับรางวัลจนนับไม่ถ้วน ตั้งแต่ตำแหน่ง ‘German Winemaker of the Year’ ในปี 1996 ที่ทรงเกียรติ์ที่สุดในบรรดาผู้ผลิตเยอรมัน จัดเป็นหนึ่งในไวน์ขาวที่ราคาแพงที่สุด ด้วยคุณสมบัติพิเศษ เอจจิ้งได้ยาวนานกว่าไวน์ขาวตัวอื่นๆ มาก พร้อมไวน์หลายตัวของ JJ Prum ยังได้คะแนน 95+ จาก James Suckling และ Robert Praker อีกด้วย! จึงกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไวน์แมนอยากแนะนำมากๆ ครับ!
ไวน์แนะนำ
Joh. Jos. Prum จากอดีตถึงปัจจุบัน
รู้หรือไม่?! ช่วงปี 18s – 19s Riesling จาก Mosel ประเทศเยอรมันมีราคาแพงกว่าบอร์โดซ์ 1st growth หรือเบอร์กันดี Grand Cru เสียอีก ก่อนที่ความนิยมของไวน์แดงจะพุ่งแซงหน้าไวน์ขาวในศตวรรษที่ 20 แต่อย่างไรก็ตาม เยอรมัน ก็ยังได้ชื่อว่าเป็น ‘ราชาแห่งไวน์ขาว’ โดยเฉพาะ Riesling ครับ โดย Joh. Jos. Prum หรือเรียกย่อๆ ว่า JJ Prum เป็นธุรกิจของตระกูล Prum มายาวนานกว่า 400 ปี โดยเริ่มปลูกองุ่นอยู่ในเมือง Wehlen ภายในเมือง Mosel ผลิตไวน์ท้องถิ่น หรือขายองุ่นคุณภาพเยี่ยมให้ไวน์เนอร์รี่ดังๆ อื่นๆ ทั่ว Mosel จนกระทั้งในปี 1911 Johann Josef Prum ได้ก่อตั้ง Joh. Jos. Prum ขึ้นมาอย่างเป็นทางการ ขึ้นชื่อเรื่อง Riesling สไตล์ dry และ off-dry คุณภาพยอดเยี่ยม ราคาเข้าถึงง่าย ไปจนถึงแพงแบบสุดๆ นอกจากนั้นในปี 1920 JJ Prum ยังเริ่มผลิตไวน์หวานคุณภาพยอดเยี่ยมอีกด้วย เอกลักษณ์ของรสชาติไวน์ Joh. Jos. Prum
เอกลักษณ์ของรสชาติไวน์ Joh. Jos. Prum
young wine จาก J. J Prum จะมีกลิ่นแร่ธาตุสุดแสนเฉพาะตัวที่ยากจะอธิบาย แต่มีความคล้ายๆ กลิ่นไม้ขีดไฟที่เพิ่งถูกจุด ตามมาด้วยความสดชื่น acidity เด่นชัด ซึ่งเป็นผลมาจากการหมักจาก wild yeast เฉพาะ ซึ่งกลิ่นนี้จะอ่อนลง และถูกแทนที่ด้วยกลิ่นหอมของผลไม้เขตร้อน ไวท์พีช และกลิ่นฟลอรัล หากเอจจิ้งไวน์ใบนานๆ ครับ
ทำไม Joh. Jos. Prum จึงพิเศษสุดๆ
- ไวน์ของ Joh.Jos. Prum สามารถเอจจิ้งได้นานสุดๆ เช่น Riesling Kabinett ที่สามารถซื้อขายในราคาหลักพัน แต่มีศักยภาพในการเอจจิ้งได้นานระดับ 5-10 ปี (หากเก็บใน cellar คุณภาพเยี่ยม) โดยกล่าวว่า J. J Prum Riesling Kabinett วินเทจปี 1981 ที่เอจไว้กว่า 40 ปี ก็ยังมีโน้ตผลไม้สุดแสนบริสุทธิ์ บวกกับกลิ่นอันแสนซับซ้อน จึงเป็นอีกหนึ่งไวน์ที่เซียนไวน์มักลงทุนซื้อมาเอจเพื่อพัฒนามูลค่าครับ
- ด้วยศักยภาพในการเอจจิ้ง ทำให้ไวน์วินเทจดีๆ จาก Joh.Jos. Prum ติดโผไวน์ที่แพงที่สุดในโลกมากมาย อย่างตัว Riesling Trockenbeerenauslese 1976 ได้ชื่อว่าเป็นไวน์ที่แพงที่สุดอันดับ 6 ของโลก เป็นไวน์หวาน Riesling ‘noble rot’ โน้ตมะเดื่อหวาน ผสมนูกัต ที่ขายต่อในตลาดไวน์ในราคาหลักหลายแสน รวมไปถึง Riesling Beerenauslese และ Riesling Eiswein ที่ราคาขึ้นหลักหลายหมื่นเลยครับ
- จะเก็บเกี่ยวองุ่นค่อนข้างช้ากว่าวินยาร์ดเยอรมันทั่วไป ประมาณเดือนตุลาคม เพื่อให้ได้องุ่นรสชาติจัดจ้านที่มีความฟรุ๊ตตี้เด่นชัด
- ใช้ถังสเตนเลส สตีล ในการหมักไวน์ เพื่อนำเสนอรสชาติแสนบริสุทธิ์ของ Riesling
- ใช้ wild yeast ท้องถิ่นในการหมักไวน์ ทำให้ไวน์ของ J. J Prum มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์มากๆ มีกลิ่นคล้ายๆ ‘ไม่ขีดไฟที่เพิ่งจุด’ ในกรณีที่ไวน์ยังอายุน้อยอยู่
วินยาร์ดของ Joh. Jos. Prum
Mosel อันเป็นแคว้นปลูกองุ่นเบอร์ 1 ของเยอรมัน ซึ่ง Joh. Jos. Prum ถือว่าเป็นราชาแห่ง Mosel และเป็นเจ้าของวินยาร์ดถึง 6 แห่งใน Mosel อันเป็นวินยาร์ดที่อยู่แยกกัน ขนาดเล็กๆ สอดแทรกไปตามแนวแม่น้ำ Mosel ที่คดเคี้ยว มีเนินเขาชันที่ดีต่อการระบายน้ำ เป็นพื้นที่ที่มีอากาศหนาว แต่ขณะเดียวกันก็มีแดดเยอะ ทำให้ได้ไวน์ขาวที่ทั้ง acidity สูง แสนสดชื่น พร้อมกับความฟรุ๊ตตี้ เหมาะทั้งในการทำไวน์ dry ไปจนถึงไวน์หวานเลยครับ โดยวินยาร์ดของ Joh. Jos. Prum ที่ได้ชื่อว่าดีเยี่ยมที่สุด จะอยู่ตอนกลางของ Mosel ในโลเคชั่นที่ได้แสงอาทิตย์เยอะที่สุด พร้อมมีสโลปเนินเขาหันหน้าสู้แดดพอดีอย่าง Wehlener, Bernkasteler ไปจนถึง Zeltinger จนมีคำกล่าวว่าแสงแดดในฤดูใบไม้ผลิจากวินยาร์ดทั้ง 3 แห่งนี้ ไม่เหมือนที่อื่นในโลก เพราะทั้งกระจ่างใส ตัดผ่านอากาศหนาวเย็นที่ทำให้ไม่รู้สึกว่าร้อนจ้าจนเกินไป ได้องุ่นที่ทั้งรสชาติเข้มข้น และหรูหรา acidity สูง ในขณะที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนครับ
ไวน์ของ Joh.Jos.Prum
Bernkasteler Badstube Riesling Kabinett 2018 – JJ Prum ตั้งให้
Riesling สไตล์ Kabinett เป็นมาตรฐานของไวน์ทุกตัว ยิ่งมาจาก Bernkasteler จะได้ Riesling แสนไลท์ โน้ตไวท์พีช ฟลอรัลมากกว่าที่อื่น จึงได้ชื่อว่าเป็นไวน์ดื่มง่ายๆ จับคู่กับเมนูซัมเมอร์ได้ยอดเยี่ยม หากคุณยังไม่รู้จะลองไวน์เยอรมันตัวไหนก่อนดี? ผมแนะนำให้ลองตัวนี้ก่อนเลยครับ!
Wehlener Sonnenuhr Riesling Kabinett 2018 – Riesling สไตล์ dry
ไปจนถึง off-dry จาก Wehlener ถือเป็นไวน์ซิกเนเจอร์ของ JJ Prum คุณภาพเยี่ยม อัดแน่นด้วยโน้ตฟรุ๊ตตี้ สับปะรด มะม่วง และซิตรัส เลม่อน แต่ก็ยังมีความซับซ้อน กลิ่นควัน หิน แร่ธาตุ และตอนจบลากยาว หรูหราจนยากที่จะหยุดดื่มเลยครับ สามารถดื่มได้เลย เอ็นจอยคาวสดใสของโน้ตผลไม้ แต่ขณะเดียวกันก็เอจจิ้งได้ยาวนาน พัฒนาโน้ตผลไม้ให้สุกงอม ซับซ้อน
Bernkasteler Badstube Riesling Spatlese 2018 – ใครที่อยากได้ Riesling ที่โน้ตผลไม้ชัดเจน ชุ่มฉ่ำกว่าเดิม แนะนำเลือก Riesling Spatlese ซึ่งจะมาจาก Riesling ที่เก็บเกี่ยวช้า จึงได้กลิ่นหอมของแพร์ พีชขาว ดอกลิลลี่ ผสมมาซิแพน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นไวน์หวานนะครับ เพราะยังอยู่ในหมวดหมู่ off-dry แต่โน้ตจะออกไปทางหวานๆ กว่า
Wehlener Sonnenuhr Riesling Auslese 2018 – Riesling ‘Auslese’ จัดเป็นประเภทไวน์หวาน แต่หากเทียบกับวินยาร์ดอื่นๆ JJ Prum ไวน์หวานของเขาจะเต็มไปด้วยความสมดุล ไม่หวานเลี่ยนอย่างเดียว สอดแทรกไปด้วยโน้ตส้มควินซ์ แอปเปิ้ล เมล่อน ที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าหวานอย่างเดียว ยังมีความสดชื่น acidity สดใสที่ส่องผ่านมาจากภายในของไวน์ครับ