fbpx

งดบริการให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี อ่านนโยบายการขาย คลิก

ติดต่อเราเพื่อสอบถาม

แอด LINE สั่งเลย

*สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น

Please add Image or Slider Widget in Appearance Widgets Page Banner.
If you would like to use different Widgets on each page, we reccommend Widget Context Plugin.

รู้จัก “ องุ่น Malbec” องุ่นที่เกือบสูญพันธุ์

August 14, 2020

องุ่น Malbec ถือว่าเป็นอีกหนึ่งองุ่นเเดงที่มีคนรู้จักกันอย่างกว้างขวาง จับต้องได้ง่าย เพราะราคาไม่ได้เเพงมาก สำหรับใครที่เริ่มศึกษาเรื่ององุ่นเเดงเเละกำลังมองหาไวน์ที่น่าสนใจอยู่ เจ้า Malbec นี้ก็เป็นอีกตัวที่ไวน์เเมนอยากจะเเนะนำให้รู้จัก โดยเฉพาะคุณผู้ชายครับ เนื่องจากมีรสชาติที่หนักเเน่น คุณผู้ชายน่าจะถูกใจกัน


ไวน์แนะนำ


 

องุ่น Malbec (มาลเบค) เป็นพันธุ์องุ่นที่นิยมนำไปผลิตไวน์เเดง มีลักษณะเป็นสีม่วงเข้มเเละผิวหนา เป็นองุ่นที่ชอบเเสงเเดด เเละยังเป็นตัวช่วยให้องุ่นผลิตผิวที่หนาเเละสีที่เข้ม รวมทั้งเป็นองุ่นที่ติดโรคเเละเน่าได้ง่ายสภาพอากาศที่เหมาะจึงเป็นอะไรที่สำคัญมากๆกับ Malbec โดยตอนกลางวันต้องมีเเดดส่องถึงเเละตอนกลางคืนก็ต้องเย็นสบาย ความโดดเด่นอยู่ที่ความเข้มข้นของ body รสชาติผลไม้เเบบ dark fruit เเละ finish ที่เเสนจะนุ่มนวลชวนหลงไหล เป็นไวน์ที่ดื่มเเบบเพียวๆ (single-varietal Malbec wine) ก็อร่อย หรือจำมาเป็นก็ยิ่งเลิศ เเถมยังเป็น 1 ใน 6 พันธุ์องุ่น (Malbec, Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Merlot, Petit Verdot เเละ Carménère) ที่ได้รับการอนุญาตให้ ใช้ในไวน์เเดง Bordeaux blend อีกด้วย ถ้าได้เป็นส่วนหนึ่งของไวน์บอร์โดซ์เเล้ว เเสดงว่าดีกรีของเขาก็ไม่ธรรมดาเเน่นอน

เเม้ว่า องุ่น Malbec จะไม่ได้มีราคาเเพงอะไรมาก เเต่คุณภาพเขาก็ไม่เเย่นะครับ มีคอไวน์หลายคนบอกว่า Malbec เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากดื่ม Cabernet Sauvignon เเละ Syrah เเต่มีงบจำกัด เเละด้วยความที่ทั้ง 3 องุ่นมีรสชาติบางส่วนที่คล้ายกัน Malbec เลยเป็น Cabernet Sauvignon เเละ Syrah ในเวอร์ชั่นราคาถูกไปเลยครับ ใครที่ไม่เคยลององุ่นเเพงๆ 2 ตัวนั้นก็ดื่ม Malbec เเทนก็ได้ครับ เเล้วค่อยไปจินตนาการถึงรสชาติเพิ่มทีหลัง

ชื่อ Malbec เป็นชื่อที่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปในหมู่นักดื่มไวน์ เเต่ในบริเวณอื่นชื่อเรียกก็จะเเตกต่างกันไป อย่างชื่อที่รู้จักในฝรั่งเศส เขาจะเรียกองุ่นนี้ว่า Côt ส่วนถ้าเล็กลงมาหน่อยใน Burgundy จะเป็น Auxerrois หรือถ้าใน Bordeaux ก็จะเรียกว่า Pressac นี่ยกตัวอย่างมาเเค่บางพื้นที่นะครับ เพราะจริงๆเเล้วมีทั้ง Auxerrois De Laquenexy, Auxerrois Des Moines De Picpus, Cahors, Calarin, Cauli, Costa Rosa,, Guillan, Hourcat, Jacobain, Luckens เเละอีกมากมาย

ต้นกำเนิดของ Malbec

Malbec นั้นมีต้นกำเนิดมาจาก Bordeaux ประเทศฝรั่งเศส เเละมีการปลูกกันอย่างเเพร่หลายมากในประเทศ สมัยนั้นมีพื้นที่ไร่องุ่นปลูก Malbec อยู่ถึง 30 พื้นที่ เเต่ความนิยมก็ต้องหยุดชะงักไป เพราะได้มีแมลง Phylloxera หรือเพลี้ยระบาดในหมู่องุ่น Malbec ซึ่งเป็นการระบาดที่หนักมากจน Malbec ในฝรั่งเศสเกือบสูญพันธุ์ไปหมด ซึ่งถ้าให้มานั่งวิเคราะห์กันอย่างจริงจัง องุ่น Malbec ไม่ค่อยเหมาะที่จะปลูกในฝรั่งเศสเท่าไหร่หรอกครับ จึงไม่เเปลกใจทำไมถึงได้ระบาดกันอย่างรุนเเรงขนาดนี้ เเต่ในความโชคร้ายนั้นก็ยังมีความโชคดีอยู่ครับ เพราะได้มีคนนำ Malbec ไปปลูกที่ประเทศอาร์เจนติน่าเเละมีการขยายจำนวนมากขึ้น ทำให้รอดจากการสูญพันธุ์ไป อาร์เจนติน่าก็กลายเป็นผู้ฟื้น Malbec ให้คืนชีพไปโดยปริยาย  

รสชาติของ Malbec 

องุ่น Malbec ในรูปเเบบไวน์นั้นมาพร้อมกับสีเเดงเข้มออกม่วง ซึ่งบ่งบอกถึงลักษณะของความเป็น full-bodied ได้ดี มี acidity เเละเเทนนินปานกลาง เป็นไวน์สไตล์ dry เเอลกอฮอล์สูง มีรสชาติที่โดดเด่นของลูกพลัม, เเบล็คเบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, เเบล็คเชอร์รี่, ทับทิมเเละลูกเกด ซึ่งรสผลไม้เหล่านี้เเหละครับที่เป็นเสน่ห์ของ Malbec เเละยังมีรสอื่นๆตามมาด้วยทั้งโกโก้, ช็อคโกเเลตมิลค์, กาเเฟ, กากน้ำตาล, ยาสูบ,พริกไทยดำ หรือเเม้กระทั้งหินกรวด เรียกได้ว่าเป็นไวน์ที่มีรสชาติหลากหลายเเละซับซ้อนมากตัวหนึ่งเลยทีเดียว ถ้าเปรียบเป็นภูมิภาคไวน์ก็คงเป็นภูมิภาคที่มีลักษณะดินหลายประเภท มีเนินเขา ภูเขา หุบเขาเเละที่ราบผสมกันอยู่ในที่เดียว นอกจากรสชาติที่ซ้บซ้อนเเล้ว ไวน์ตัวนี้ยังมประสิทธภาพในการเอจ สามารถเก็บไว้ได้อีกประมาณ 5-10 ปี เอาใจนักสะสมไวน์ไปอีก

ถ้าใครอยากลอง Malbec ผู้ผลิต Terrazas (Terrazas de los Andes) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีนะครับ เป็นเเบรนด์ตัวท็อปของ Malbec เลย ตัวที่น่าสนใจมากๆเลยก็คือ Terrazas Reserva Malbec ไวน์ตัวนี้มีความนุ่มนวลและชุ่มฉ่ำ มาพร้อมกับรสชาติของราสเบอร์รี่, เครื่องเทศและมะพร้าว

เทคนิคเลือกไวน์ Malbec

เก็บเกี่ยวด้วยมือ: หรือ manual harvest ไวน์ที่มีคุณภาพสูงส่วนใหญ่นั้นจะมาจากการเก็บเกี่ยวโดยใช้เเรงคน ถึงเเม้การมีการพัฒนาเครื่องจักรยังไงก็ไม่สามารถเก็บองุ่นได้ละเอียดเท่ากับมือคนอยู่ดี เพราะคนเก็บสามารถที่จะเลือกผลองุ่นได้ เเต่เครื่องจักรไม่มีตามาสังเกตุหรอกว่าลูกไหนดีหรือไม่ดี

ระยะเวลาในการหมัก: ระยะเวลาในการหมักในที่นี้กล่าวถึงการหมักองุ่นในโรงเก็บไวน์ (cellar) ยิ่งหมักไว้นานเเค่ไหนก็ยิ่งเเปลว่าผู้ผลิตนั้นใส่ใจคุณภาพของไวน์ ไม่ว่าจะเป็นโอ๊คหรือถังธรรมดาก็ตาม ฉะนั้นถ้าคุณเจอไวน์ Malbec ตัวไหนที่หมักในในโรงเก็บไวน์นานกว่าปกติ ไวน์ตัวนั้นมีเเนวโน้มที่จะดีกว่า Malbec ทั่ๆวไปครับ

เลือกภูมิภาค:  Malbec จาก The Uco Valley เเละ Luján de Cuyo ในภูมิภาค Mendoza consistently ส่วนถ้าเป็นฝรั่งเศสที่ Cahors ก็เลิศครับ ส่วนที่อื่นๆก็จะมี Walla Walla ที่ติดเขต Oregon เเละ Washington 

พื้นที่การปลูก Malbec 

ฝรั่งเศส

ถึงเเม้ว่าองุ่น Malbec จะมีต้นกำเนิดมาจากที่นี่ เเต่ก็ไม่ช่วยให้เป็นองุ่นที่สำคัญอะไรมากนัก เนื่องด้วยอากาศที่ไม่ค่อยอำนวย องุ่นติดโรค เน่าเเละตายง่าย ทำให้ไม่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ผลิตไวน์นัก รวมทั้งเหตุการณ์การระบาดของเเมลงในช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ผู้ผลิตหันไปปลูกองุ่นพันธุ์อื่น Malbec ก็เลยไปป็อปอยู่ในบรรดาประเทศไวน์ New World เเทน พื้นที่ไร่องุ่น Malbec ในประเทศจึงมีพื้นที่อยู่เพียง 37,900 ไร่ ถ้าเทียบกับองุ่นตัวท็อปในประเทศก็ถือว่าน้อยกว่ามากทีเดียว โดยภูมิภาคที่ยังปลูกอยู่นั้นมีอยู่หลักๆ 3 ที่ คือ Sud-Ouest, Bordeaux เเละ Loire Valley 

รสชาติของ Malbec ที่นี่มักจะมีเนื้อสัมผัสของหนัง ซึ่งมาพร้อมกับรสชาติของลูกพลัมดำ, พริกไทยดำเเละเครื่องเทศ บวกกับความขมอีกนิดหน่อย มี acidity สูง เเทนนินเเบบปานกลาง เเอลกอฮอล์เเบบพอประมาณ เเละเอจได้ค่อนข้างนานเลยทีเดียวครับ

อาร์เจนติน่า

สำหรับประเทศนี้ Malbec นั้นถูกเเต่งตั้งให้เเป็น “องุ่นประจำชาติ” เลยทีเดียว โดยมีการนำองุ่นนี้เข้ามาในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ทำให้ในประเทศเริ่มมีการปลุกองุ่นนี้กันมากขึ้น เเต่ในช่วงศตวรรษที่ 20 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจพอดี ได้มีการรื้อถอน Malbec บางส่วนออกไป เพื่อนำไร่ตรงที่นั้นๆไปปลูกองุ่น Criolla Grande เเละ Cereza เพื่อผลิต “jug wine” เเต่องุ่นจะดังยังไงก็ต้องดังครับ เพราะสุดท้ายเเล้วช่วงปลายๆศตวรรษที่ 20 ก็ได้มีการฟิ้นฟูไร่ Malbec อีกครั้ง เพราะทางอุตสาหกรรมไวน์ได้ตั้งใจที่จะผลิตไวน์พรีเมี่ยมไว้ส่งออก ซึ่ง Malbec เองก็มีคาเเร็คเตอร์ที่เข้าตากรรมการพอดี  

ในปี 2003 มีจำนวน Malbec อยู่ทั้งหมดถึง 120,000 ไร่ จนมาถึงวันนี้ที่ Malbec เป็นองุ่นที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในประเทศ มีจำนวนพื้นที่ขององุ่นนี้ทั้งหมด 190,000 ไร่ มากกว่าฝรั่งเศสอย่างเห็นได้ชัด โดยภูมิภาค Mendoza จะเป็นที่ๆผลิต Malbec ออกมาได้เพอร์เฟ็กต์ที่สุด เพราะลักษณะดินเป็นหิน เเร่ธาตุไม่มาก ทำให้องุ่นออกมามีความเข้มข้น นอกจากนี้ยังมีปริมาณฝนที่น้อย ตอนกลางวันอบอุ่นมีเเสงเเดดส่องถึง ส่วนกลางคืนอากาศก็เย็นๆ ช่วยให้ acidity ออกมามีคุณภาพ เเนะนำ Susana Balbo “Signature” Malbec, 2017 เป็นหนึ่งในสไตล์ที่พลาดไม่ได้เลย รสชาติลงตัว body เเบบพอดี หวานๆ สดชื่น หรือถ้าใครอยากได้ไวน์ที่มีความสาก + ฝาดขึ้นมาอีก เเนะนำเป็น Nosotros Single Vineyard Nómade Malbec, 2015

ลักษณะผล Malbec ของที่นี่จะเเตกต่างจากของที่ฝรั่งเศส เพราะจะมีพวงองุ่นที่เล็กเเละเเนบชิดกันมากกว่า รวมถึงตัวผลองุ่นเองก็เล็กตามไปด้วย มีคนเคยให้เหตุผลไว้ว่า องุ่น Malbec ที่ถูกนำเอามาทีนี่อาจจะตัวโคลนที่อาจจะสูญพันธุ์ไปเเล้วในฝรั่งเศส เนื่องจากเหตุการณ์ระบาดของเเมลง Phylloxera เเละน้ำค้างเเข็งที่ปกคลุมต้นองุ่นจนตาย

องุ่น Malbec ในสไตล์ของอาร์เจนติน่าหลายตัวได้รับคะเเนนจาก Wine Spectator เเละ Wine Advocate เกิน 95 คะเเนน อยู่หลายตัวเหมือนกันนะครับ โดยไวน์จะมาพร้อมกับสีเเดงอมม่วง มีเม็ดสีที่เข้มเด่นชัด มีรสชาติของผลไม้อย่างลูกพลัม, เเบล็คเบอร์รี่เเละเเบล็คเชอร์รี่ เเละยังมีกลิ่นอายของช็อคโกเเลตมิลค์, หนังเเละดอกไวโอเลต ปิดท้ายด้วย finish ที่ให้ความรู้สึกเหมือนยาสูบ มีปริมาณเเอลกอฮอล์มากว่า เเต่ acidity เเละเเทนนินนั้นน้อยว่าของฝรั่งเศส มีประสิทธิภาพในการเอจเหมือนกัน เเต่น้อยกว่า French Malbac นิดหนึ่ง ส่วนถ้าเป็นไวน์ blend องุ่น Malbec จะถูกผสมกับ Bonarda 

อเมริกา

องุ่น Malbec เคยเป็นพันธุ์องุ่นที่สำคัญมากในกระบวนการผลิต bulk wine ของ California เรียกว่าเป๋นองุ่นหลักในไวน์เลย  หลังจากมี Prohibition in the United States (1920-1933) กฏเเละข้อห้ามต่างๆเกี่ยวกับการผลิตการนำเข้าการขนส่งและการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกมา Malbec ก็สูญเสียความนิยมไปเยอะ จนกระทั้งมีกระเเส “Meritage” ไวน์ blend สไตล์ Bordeaux ในช่วงกลาง 1990s Malbec เลยกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ในช่วง 1995 ถึง 2003 จำนวนไร่องุ่นที่ California มีการเพิ่มขึ้นจาก 2,500 เป็น 7,000 อย่างรวดเร็ว ซึ่งหลักๆก็ยังเป็นองุ่นที่ใช้ blend เหมือนเดิม โดยบริเวณ AVA (American Viticultural Areas) จะมี Napa Valley, Alexander Valley, Paso Robles เเละ Sonoma Valley เป็นเเหล่งที่มีการปลูก Malbec มากที่สุด 

ชิลี

ชิลีก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ทนชื่อเสียงของ Malbec ไม่ไหวจนต้องลองเอามาปลูกเอง  โดยสามารถพบได้มากใน Central Valley Chilean Malbec มักจะมีเเทนนินที่ค่อนข้างเข้มข้นกว่า โดยในปี 2016 La Moneda Reserve Malbec ก็ได้สร้างชื่อเสียงในกับประเทศเป็นอย่างมาก เพราะไวน์นี้ได้ รางวัล Platinum Best in Show ใน blind tasting ของ The Decanter World Wine Awards 

ออสเตรเลีย

องุ่นพันธุ์นี้เริ่มมีการปลูกที่ออสเตรเลียในศตวรรษที่ 19 โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำมาผลิตเป็น bulk wine เเต่ตัวโคลนขององุ่นที่นำมานั้นมีคุณภาพที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีความความไวกับน้ำค้างแข็ง, เชื้อรา เเละโรคต่างๆ โดยในช่วงกลางถึงปลายศตวรรษที่ 20 พื้นที่ไร่ Malbec หลายแห่งถูกเรื้อถอนและมีการปลูกพันธุ์อื่นเเทน เเต่หลังจากนั้นก็ได้มีการนำโคลน Malbec ตัวใหม่เข้ามา จึงทำให้ Malbec ในออสเตรเลียกลับมาบูมขึ้น

ประเทศอื่นๆที่ปลูก Malbec

นอกจากประเทศข้างบนที่กล่าวมาเเล้ว ในอิตาลี, นิวซีเเลนด์, บราซิล, เเคนาคา (British Columbia  เเละ Ontario), อิลราเอล, แอฟริกาใต้, เม็กซิโกเเละอื่นๆก็มีการปลูกองุ่นพันธุ์นี้เหมือนกัน ซึ่งเเน่นอนว่าความโดดเด่นก็จะเเตกต่างกันไป เเต่ก็ดีเเล้วละครับ เราจะได้มีไวน์หลายๆสไตล์ไว้บริโภค

วิธีเสิร์ฟ Malbec ให้อร่อยที่สุด 

การดื่ม Malbec นั้นควรใช้เเก้วไวน์เเดงที่ไม่ต้องใหญ่มากอย่างเเก้วมาตรฐาน หรือที่ฝรั่งเรียกกันว่า universal wine glass เเก้วเเบบนี้เหมาะกับไวน์ full-bodied ที่มีรสเครื่องเทศ เพราะปากเเก้วนั้นไม่ค่อยกว้าง ทำเท็กซ์เจอร์ของเครื่องเทศนั้นมีความละมุนขึ้น โดยปกติเเล้วไวน์เเดงไม่ต้องดื่มเย็นเท่าไวน์ขาว อุณหภูมิที่เหมาะในการดื่มจึงอยู่ที่ประมาณ 15-20 องศา เเละอีกเทคนิคกนึ่งที่อยากจะเเนะนำคือ การ decent ครับ เพื่อความอร่อยที่ว้าวมากขึ้น ผมขอเเนะนำให้คุณ decent ไว้สักประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนดื่ม

 จับคู่อาหารกับ Malbec

ด้วยความที่ Malbec นั้นเป็นไวน์ full-bodied มีรสชาติเข้มจากเเทนนินนิดๆ จึงทำให้เหมาะที่จะจับคู่กับเนื้อที่มีสีเเดง นอกจากนี้ไวน์ก็สามารถเข้ากับรสชาติเเบบ earthy เช่น เนื้อใต้อก (Brisket) ได้ดีอีกด้วย

เนื้อสัตว์

อย่างที่ได้บอกไปว่า Malbec เข้ากับเนื้อที่มีสีเเดงได้ดี ไวน์เเมนจึงขอเเนะนำให้คุณลองดื่มไวน์คู่กับพวกเนื้อวัว, เเกะเเละนกกระจอกเทศ อย่างสเต็กเนื้อวัว เมื่อทานคู่กันเเล้ว เเทนนินจากไวน์ Malbec จะช่วยไปตัดกับความมันของเนื้อ ทำให้รู้สึกไม่เลี่ยนเกินไป เเต่ถ้าใครเบื่อเนื้อเเบบนี้เเล้ว เนื้อเเกะ, ไก่, เป็ดเเละเนื้อหมูตรงช่วงไหล่ก็ช่วยส่งเสริมรสชาติของกันเเละกันได้ดีไม่น้อยเลยครับ

เครื่องเทศเเละสมุนไพร

สำหรับอาหารที่มีผักเเละสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ ผมขอเเนะนำให้เลือกเมนูที่มีความ earthy เเละ smoky จากพวกผักชีฝรั่ง, ซูแมค, โหระพา, โรสแมรี่, ผงพอร์ชินี, ปาปริก้ารมควัน,ซอสบาร์บีคิว,พริกไทยดำ, ยี่หร่า รวมถึงพวกกระเทียม ,หอมแดงและต้นหอมด้วยครับ

ชีส

ส่วนซีส ควรจะเป็นซีสที่มีความ funky (มีกลื่น) รสชาติเข้มๆ อย่างพวกชีสนมวัว, ชีสนมเเพะเเละ blue cheese เป็นต้นครับ

มังสวิรัติ

Malbec สามารถดื่มคู่กับผักได้หลากหลายชนิดมากครับ ไม่ว่าจะเป็นเห็ด, ผักย่าง,พริกหยวกเขียวและแดง, มันฝรั่ง, เคล, หัวหอมใหญ่เเละถั่วดำ ยกเว้นข้าวที่อาจจะไม่เข้ากันสักเท่าไหร่

Our favourite wines

"ไวน์" ไวน์แมน - ไวน์แดง ขาว สปาร์กลิงไวน์

สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด

บริษัทขอสงวนสิทธิ์การสั่งให้สำหรับแค่ลูกค้านิติบุคคลเท่านั้น ผู้สั่งต้องรับสินค้าด้วยตัวเอง พนักงานทางร้านจะต้องมีการพบหน้าผู้สั่งและตรวจสอบบัตรประชาชนและอายุโดยไม่มีข้อยกเว้น องค์ประกอบภาพและคำอธิบายทั้งหมดไม่ได้บ่งบอกถึงประเภทและสรรพคุณของเครื่องดื่ม สั่งไวน์ ไวน์แดง ไวน์ขาว สปาร์กลิงไวน์ กับแพลตฟอร์มไวน์ชั้นนำเเห่งประเทศไทย เลือกจากไวน์คัดสรรอย่างดีกว่า 3000 ตัว ตั้งแต่ราคาเบาๆดื่มง่าย จนถึงไวน์ขั้นเทพระดับ Grand Cru มีแสตมป์ทุกขวด หลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับหลายคนที่คุ้นเคยกับ Chardonnay สไตล์อเมริกัน ออสเตรเลีย ที่มักหมักหรือเอจไวน์ในถังโอ๊ค ทำให้ Chardonnay เป็นสไตล์ full-bodied โน้ตเนย วานิลลาชัดเจน อาจตั้งข้อสงสัยว่า Chardonnay ไม่เห็นมี acidity เลย! นั่นเพราะไวน์ขาวได้ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า  ‘Malolactic Fermentation’ (อ่านเพิ่มเติมในบทความอธิบาย acidity ได้เลยครับ) ไวน์จึงมีรสหวาน และมันมากขึ้น acidity จึงไม่ชัด แต่โดยธรรมชาติแล้ว Chardonnay มี acidity ที่ค่อนข้างสูงเลยครับ! สังเกตได้จาก Chardonnay จากเบอร์กันดีแสงโด่งดังในเมือง Chablis ที่ไม่ใช้การหมัก และเอจในถึงโอ๊คเลย จะได้ไวน์ที่รสชาติแตกต่าง ฟรุ๊ตตี้ สดชื่น เต็มไปด้วยแร่ธาตุ acidity สดใสครับ